บุรีรัมย์ ปะทะ เชียงราย ลุ้นดับเบิลแชมป์เอฟเอคัพเสาร์นี้

กทม. 25 ต.ค. – เอฟเอคัพ เดือด! “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ปะทะ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลุ้นดับเบิลแชมป์เสาร์นี้


ฟุตบอล ช้าง เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เป็นรายการสุดท้ายของฟุตบอลไทยในปีนี้ เป็นการดวลกันระหว่าง “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น. ซึ่งนอกจากมีความหมายทั้ง 2 ทีมในการลุ้นคว้าดับเบิลแชมป์ในปีนี้แล้ว ยังมีพ่วงไปอีกทีมที่รอลุ้นเป็นตาอยู่คอยเสียบไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชียในปีหน้า



สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์เก่าปีที่แล้ว เพิ่งคว้าแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ 2018 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการเฉือนชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพิ่งคว้าแชมป์ไทยลีก 2018 พร้อมกับทำคะแนนสูงสุดถึง 87 คะแนน และเป็นแชมป์รายการนี้ 4 สมัย ในปี 2011, 2012, 2013 และ 2015

เกมนี้เป็นเกมที่น่าสนใจ เพราะจะมีทีมที่ 3 รอเสียบไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชีย เนื่องจากหากทีมเชียงรายสามารถคว้าแชมป์ได้ จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ทันที แต่ถ้าหากบุรีรัมย์ คว้าแชมป์ การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 3 ของไทยลีก จะคว้าส้มหล่นไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟแทน เนื่องจากบุรีรัมย์ ได้สิทธิ์ไปเล่นในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม เพราะได้สิทธิ์ในฐานะแชมป์ไทยลีกไปแล้ว

เกมนี้ยังมีความหมายกับ อเล็กซานเดอร์ กาม่า นอกจากจะเจอกับทีมเก่า บุรีรัมย์ และ เคยนำบุรีรัมย์ คว้าแชมป์ถ้วยเอฟเอ คัพ ในปี 2015 แล้ว เกมนี้ กาม่า จะคุมทีมเชียงราย ยูไนเต็ด เป็นนัดสุดท้าย โดยสื่อคาดว่า กาม่า จะไปคุมทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในการลุ้นโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยประเทศไทยได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ด้วย

สำหรับ กาม่า เคยคุมทีมทั้งในบราซิล, เอเชียตะวันออกกลาง รวมถึงเคยเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดคว้าอันดับสามฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 มาแล้ว เขาประสบความสำเร็จในการคุมสโมสรในประเทศไทย ด้วยการคว้าไปแล้ว 11 แชมป์ กับ 2 สโมสร ในช่วงระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2014-2016  ที่มาคุมทีมบุรีรัมย์ คว้า 8 แชมป์ และ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในปี 2017-2018 คว้า 3 แชมป์

โดยผลงานของกาม่า ที่ผ่านมา คว้าแชมป์ไทยลีก 2 สมัย, แชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย, แชมป์ลีกคัพ 3 สมัย, แชมป์ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ หรือ ถ้วยพระราชทานประเภท ก. เดิม 3 สมัย และ แชมป์โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ 1 สมัย กาม่า กำลังลุ้นถ้วยใบที่ 12 ในวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ และจะเป็นใบที่ 4 ให้กับทีมเชียงรายด้วย

เกมนี้ยังไม่หยุดแค่นี้ ยังเป็นการวัดกันของ 2 ผู้รักษาประตู ว่า ใครจะเป็นมือหนึ่งทีมชาติไทย ในรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ที่จะแข่งในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ แทนที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่เล่นกับสโมสร โอเอช ลูเวิน ทีมในลีก 2 ของเบลเยียม และ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล มือ 2 ก่อนหน้านี้ก็ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว ทำให้ การขับเคี่ยวการแย่งเป็นมือหนึ่งทีมชาติไทย ระหว่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ฉัตรชัย บุตรพรม จากสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด สนุกเข้มข้นเช่นกัน

ทั้งคู่เพิ่งได้ลงสนามให้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ไปคนละ 1 เกม ในแมตช์อุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ ซึ่ง ศิวรักษ์ ลงโชว์ฟอร์มในเกมกับ ฮ่องกง ทีมชาติไทยชนะไปได้ 1-0

ฉัตรชัย บุตรพรม ได้ลงสนามในเกมกับ ตรินิแดดฯ ในฐานะตัวสำรอง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ในนาทีที่ 15 ซึ่งเกมนี้ทีมไทยชนะไปได้ 1-0 ซึ่งผลงานทั้ง 2 คนในนามทีมชาติยังไม่เสียประตูให้ใครในการลงสนาม เกมนี้จึงเป็นเกมสำคัญของตำแหน่งผู้รักษาประตูด้วย

ความพร้อมของสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไม่มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ หรือ ติดโทษห้ามแข่ง ซึ่ง ธวัชชัย คำมุงคุณ ผู้เล่นเชียงราย กล่าวว่า ดีใจที่สโมสรเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ถ้วยใบนี้ถือว่าสำคัญ เพราะจะได้สิทธิ์แข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ด้าน นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ ผู้อำนวยการสโมสรกว่างโซ้งมหาภัย กล่าวว่า เชื่อว่า ถ้วยใบนี้จะยังอยู่ภาคเหนือต่อไป

ด้านโบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือปราสาทสายฟ้า จะไม่มี สุภโชค สาระชาติ เนื่องจากเจ็บศอกต้องพักยาว ส่วน จักรพันธ์ แก้วพรม ต้องลุ้นว่า จะหายเจ็บทันหรือไม่ ขณะที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมบุรีรัมย์ พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ หวังจะเอาถ้วยกลับไปบุรีรัมย์ให้ได้

สำหรับสถิติในปีนี้ ทั้ง 2 ทีมพบกันมา 3 ครั้ง เริ่มต้นจาก ศึกไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2018 ซึ่ง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เอาชนะจุดโทษ บุรีรัมย์ ไปได้ 6-5 หลังเสมอในเวลา 2-2

ขณะที่เกมในไทยลีก ต่างฝ่ายต่างเก็บชัยชนะได้ในบ้านตัวเองด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อนับรวมผลการแข่งขัน 3 เกม เฉพาะ 90 นาที นั่นหมายถึงว่า พวกเขายังไม่มีทีมใดได้เปรียบเสียเปรียบ เกมที่สนามศุภชลาศัย ที่วันเสาร์นี้ ใครดีกว่ากันมีถ้วยเอฟเอคัพ 2018 เป็นเดิมพัน

สำหรับ สถิติที่พบกันทุกรายการเคยเจอ 18 ครั้ง บุรีรัมย์ชนะ 10 ครั้ง เชียงราย ชนะ 4 ครั้ง เสมอกัน 4 ครั้ง โดย แชมป์รายการนี้ จะคว้าเงินรางวัล 5 ล้านบาท พร้อมสิทธิ์ไปเตะเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เพลย์ออฟ รอบ 2 ส่วนรองแชมป์ รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท ส่วนบัตรเข้าชมมี 3 ราคา 150, 100 และ 80 บาท .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]

ทางออก 3 ข้อ ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เช้าวานนี้ (28 พ.ค.) บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 2 แม้ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังแน่นหนา ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้คุยกันแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ข้อสรุป 3 ข้อ.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]