บุรีรัมย์ ปะทะ เชียงราย ลุ้นดับเบิลแชมป์เอฟเอคัพเสาร์นี้

กทม. 25 ต.ค. – เอฟเอคัพ เดือด! “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ปะทะ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลุ้นดับเบิลแชมป์เสาร์นี้


ฟุตบอล ช้าง เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เป็นรายการสุดท้ายของฟุตบอลไทยในปีนี้ เป็นการดวลกันระหว่าง “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น. ซึ่งนอกจากมีความหมายทั้ง 2 ทีมในการลุ้นคว้าดับเบิลแชมป์ในปีนี้แล้ว ยังมีพ่วงไปอีกทีมที่รอลุ้นเป็นตาอยู่คอยเสียบไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชียในปีหน้า



สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์เก่าปีที่แล้ว เพิ่งคว้าแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ 2018 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการเฉือนชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพิ่งคว้าแชมป์ไทยลีก 2018 พร้อมกับทำคะแนนสูงสุดถึง 87 คะแนน และเป็นแชมป์รายการนี้ 4 สมัย ในปี 2011, 2012, 2013 และ 2015

เกมนี้เป็นเกมที่น่าสนใจ เพราะจะมีทีมที่ 3 รอเสียบไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชีย เนื่องจากหากทีมเชียงรายสามารถคว้าแชมป์ได้ จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ทันที แต่ถ้าหากบุรีรัมย์ คว้าแชมป์ การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 3 ของไทยลีก จะคว้าส้มหล่นไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟแทน เนื่องจากบุรีรัมย์ ได้สิทธิ์ไปเล่นในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม เพราะได้สิทธิ์ในฐานะแชมป์ไทยลีกไปแล้ว

เกมนี้ยังมีความหมายกับ อเล็กซานเดอร์ กาม่า นอกจากจะเจอกับทีมเก่า บุรีรัมย์ และ เคยนำบุรีรัมย์ คว้าแชมป์ถ้วยเอฟเอ คัพ ในปี 2015 แล้ว เกมนี้ กาม่า จะคุมทีมเชียงราย ยูไนเต็ด เป็นนัดสุดท้าย โดยสื่อคาดว่า กาม่า จะไปคุมทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในการลุ้นโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยประเทศไทยได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ด้วย

สำหรับ กาม่า เคยคุมทีมทั้งในบราซิล, เอเชียตะวันออกกลาง รวมถึงเคยเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดคว้าอันดับสามฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 มาแล้ว เขาประสบความสำเร็จในการคุมสโมสรในประเทศไทย ด้วยการคว้าไปแล้ว 11 แชมป์ กับ 2 สโมสร ในช่วงระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2014-2016  ที่มาคุมทีมบุรีรัมย์ คว้า 8 แชมป์ และ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในปี 2017-2018 คว้า 3 แชมป์

โดยผลงานของกาม่า ที่ผ่านมา คว้าแชมป์ไทยลีก 2 สมัย, แชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย, แชมป์ลีกคัพ 3 สมัย, แชมป์ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ หรือ ถ้วยพระราชทานประเภท ก. เดิม 3 สมัย และ แชมป์โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ 1 สมัย กาม่า กำลังลุ้นถ้วยใบที่ 12 ในวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ และจะเป็นใบที่ 4 ให้กับทีมเชียงรายด้วย

เกมนี้ยังไม่หยุดแค่นี้ ยังเป็นการวัดกันของ 2 ผู้รักษาประตู ว่า ใครจะเป็นมือหนึ่งทีมชาติไทย ในรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ที่จะแข่งในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ แทนที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่เล่นกับสโมสร โอเอช ลูเวิน ทีมในลีก 2 ของเบลเยียม และ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล มือ 2 ก่อนหน้านี้ก็ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว ทำให้ การขับเคี่ยวการแย่งเป็นมือหนึ่งทีมชาติไทย ระหว่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ฉัตรชัย บุตรพรม จากสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด สนุกเข้มข้นเช่นกัน

ทั้งคู่เพิ่งได้ลงสนามให้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ไปคนละ 1 เกม ในแมตช์อุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ ซึ่ง ศิวรักษ์ ลงโชว์ฟอร์มในเกมกับ ฮ่องกง ทีมชาติไทยชนะไปได้ 1-0

ฉัตรชัย บุตรพรม ได้ลงสนามในเกมกับ ตรินิแดดฯ ในฐานะตัวสำรอง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ในนาทีที่ 15 ซึ่งเกมนี้ทีมไทยชนะไปได้ 1-0 ซึ่งผลงานทั้ง 2 คนในนามทีมชาติยังไม่เสียประตูให้ใครในการลงสนาม เกมนี้จึงเป็นเกมสำคัญของตำแหน่งผู้รักษาประตูด้วย

ความพร้อมของสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไม่มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ หรือ ติดโทษห้ามแข่ง ซึ่ง ธวัชชัย คำมุงคุณ ผู้เล่นเชียงราย กล่าวว่า ดีใจที่สโมสรเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ถ้วยใบนี้ถือว่าสำคัญ เพราะจะได้สิทธิ์แข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ด้าน นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ ผู้อำนวยการสโมสรกว่างโซ้งมหาภัย กล่าวว่า เชื่อว่า ถ้วยใบนี้จะยังอยู่ภาคเหนือต่อไป

ด้านโบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือปราสาทสายฟ้า จะไม่มี สุภโชค สาระชาติ เนื่องจากเจ็บศอกต้องพักยาว ส่วน จักรพันธ์ แก้วพรม ต้องลุ้นว่า จะหายเจ็บทันหรือไม่ ขณะที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมบุรีรัมย์ พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ หวังจะเอาถ้วยกลับไปบุรีรัมย์ให้ได้

สำหรับสถิติในปีนี้ ทั้ง 2 ทีมพบกันมา 3 ครั้ง เริ่มต้นจาก ศึกไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2018 ซึ่ง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เอาชนะจุดโทษ บุรีรัมย์ ไปได้ 6-5 หลังเสมอในเวลา 2-2

ขณะที่เกมในไทยลีก ต่างฝ่ายต่างเก็บชัยชนะได้ในบ้านตัวเองด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อนับรวมผลการแข่งขัน 3 เกม เฉพาะ 90 นาที นั่นหมายถึงว่า พวกเขายังไม่มีทีมใดได้เปรียบเสียเปรียบ เกมที่สนามศุภชลาศัย ที่วันเสาร์นี้ ใครดีกว่ากันมีถ้วยเอฟเอคัพ 2018 เป็นเดิมพัน

สำหรับ สถิติที่พบกันทุกรายการเคยเจอ 18 ครั้ง บุรีรัมย์ชนะ 10 ครั้ง เชียงราย ชนะ 4 ครั้ง เสมอกัน 4 ครั้ง โดย แชมป์รายการนี้ จะคว้าเงินรางวัล 5 ล้านบาท พร้อมสิทธิ์ไปเตะเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เพลย์ออฟ รอบ 2 ส่วนรองแชมป์ รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท ส่วนบัตรเข้าชมมี 3 ราคา 150, 100 และ 80 บาท .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]