กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กอน.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการแนวทางแก้ไขพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่ประเทศบราซิลเห็นว่าขัดกับข้อตกลงองค์การการค้าโลกหรือดับเบิลยูทีโอ โดยจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 ปีนับจากนี้ไปภายใต้การดูแลร่วมกับของโรงงานน้ำตาลและชาวไร่อ้อย ซึ่งสิ่งที่ประเทศไทยจะดำเนินการเพื่อคลายข้อกังวลของประเทศบราซิลผู้ผลิตน้ำตาลอันดับ 1 ของโลกว่าอุดหนุนอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย ได้แก่ เรื่องที่ยกการประกาศราคาน้ำตาลทรายที่ปัจจุบันประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งราคาน้ำตาลทรายในประเทศจะไม่เคลื่อนไหวตามราคาตลาดโลก โดยราคาน้ำตาลทรายในประเทศหลังจากแก้ไขพระราชบัญญัติน้ำตาลทรายฯ และประกาศใช้ จะมีคณะทำงานขึ้นมาดูแล ซึ่งราคาน้ำตาลอาจเป็นราคาอิงราคาตลาดโลก
เรื่องที่ 2 ยกเลิกการกำหนดโควตาน้ำตาล จากที่ปัจจุบันกำหนด โควตา ก โควตา ข และโควตา ค เดิมมีสาเหตุมาจากป้องกันน้ำตาลทรายขาดแคลนสำหรับใช้ในประเทศ ซึ่งขณะนี้มีแนวทางอยู่แล้ว ด้านราคาอ้อยจะเป็นราคาแนะนำ แต่จะไม่มีการประกันราคาว่าจะต้องได้เท่าไหร่ พร้อมปรับรูปแบบเงินเพิ่มค่าอ้อย โดย ไม่เป็นการอุดหนุนโดยตรงจากภาครัฐที่ขัดกับข้อตกลงของดับเบิลยูทีโออีกต่อไป ส่วนการช่วยเหลือราคาอ้อยจะมีวิธีการดูแลแบบอื่น โดยเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล (สอน.) ที่จะพิจารณาร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะช่วยดูแลเรื่องต้นทุน ขณะที่ราคาอ้อยจะมีหน่วยงานประกาศราคาแนะนำเหมือนกับที่หลายประเทศ เช่น บราซิล ด้านชาวไร่อ้อยจะต้องพัฒนาการปลูกอ้อยให้ได้คุณภาพที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จะส่งเสริมพันธุ์อ้อยและพัฒนาพันธุ์อ้อย การปรับโครงสร้างอ้อย อีกเรื่องที่สำคัญ คือ กำหนดประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลของโรงงานน้ำตาลและชาวไร่อ้อย โดยขณะนี้มีผลการศึกษามาแล้ว อยู่ระหว่างตกลงในรายละเอียด หากดำเนินการได้ทันจะใช้ในปีนี้ โดยในส่วนของโรงงานที่มีประสิทธิภาพในการผลิตต่ำก็จะต้องจ่ายค่า penalty ในระบบ หากผลิตได้ดีจะได้รางวัลเป็นต้น เพื่อสร้างแรงจูงใจพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต นอกจากนี้ จะกำหนดมาตรฐานอ้อย มีเรื่อง penalty เช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าเฉลี่ยเพื่อสร้างแรงจูงใจ ส่วนจะกำหนดว่าจะกี่ CCS ยังจะต้องตกลงกันต่อไป อ้อยไฟไหม้ที่จะป้อนเข้าโรงงานจะค่อย ๆ ลดลง
ส่วนระบบแบ่งปันผลประโยชน์ระห่างชาวไร่อ้อยและโรงงานในสัดส่วนชาวไร่อ้อยร้อยละ 70 โรงงานร้อยละ 30 ยังมีอยู่ตามเดิม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลไทยในอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ต้องการอุดหนุนหรือเพื่อต้องการแข่งขันหรือบิดเบือนราคาน้ำตาลในตลาดโลกแต่อย่างใด เพียงต้องการสร้างเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในประเทศเท่านั้น เพื่อให้มีการปลูกอ้อยอย่างต่อเนื่อง การที่ราคาอ้อยขึ้นลงตามภาวะตลาดโลกจะส่งผลต่อปริมาณการปลูกอ้อยที่จะกระทบต่อโรงงานน้ำตาลที่ต้องลงทุนสูง การกำหนดโควตาน้ำตาล ก็เพื่อให้มั่นใจว่ามีน้ำตาลทรายเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศเท่านั้น . – สำนักข่าวไทย