กรุงเทพฯ 12 ก.ย.-เขตสาทรเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาเป็นพิเศษ ล่าสุด กทม.ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ฉีดพ่นควันฆ่าลูกน้ำยุงลาย ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิกาเพิ่ม
ปฏิบัติการการฉีดพ่นควันสารเคมีฆ่ายุงลาย พาหะเชื้อไวรัสซิกา ในเขตสาทรพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังการระบาดเป็นพิเศษ เริ่มขึ้นอีกครั้ง หลัง กทม.พบเขตนี้มีผู้ติดเชื้อ 22 คน มากสุดในกรุงเทพฯ วัดยานนาวา เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ต้องจับตา นอกเหนือจากจุดอื่นในเขตสาทร เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสาทร เร่งฉีดพ่นควันฆ่ายุงลาย ป้องกันการเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิกา แม้ไม่ใช่พื้นที่รัศมี 100 เมตร จากจุดที่พบผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวัง แต่เนื่องจากมีผู้คนมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย อีกทั้งยังอยู่ติดกับแม่น้ำ ง่ายต่อการเพาะพันธุ์ของยุงลาย
แม้สถานการณ์ระบาดเกิดในพื้นที่นี้ แต่ชาวบ้านไม่หวั่น พร้อมรับมือ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และจุดน้ำขังตามภาชนะต่างๆ รอบบ้าน กทม.พบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกา เมื่อต้นปี 2559 สามารถควบคุมได้ทั้ง 7 คน ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อคนที่ 8 คือหญิงตั้งครรภ์ในเขตสาทร ติดเชื้อจากสามีชาวต่างชาติ ขณะนี้คลอดลูก อาการปกติดี แต่หลังสอบสวนโรคพบผู้ใกล้ชิดติดเชื้ออีก 21 คน จึงต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะหนึ่งในนั้นคือหญิงตั้งครรภ์ 7 เดือน กทม.ระบุ หาก 1 เดือนจากนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ถือว่าเขตสาทรและใกล้เคียง เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากไวรัสซิกา
ไวรัสซิกากลายเป็นโรคประจำถิ่นของไทยที่มียุงลายเป็นพาหะ พบผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ 5 คน อาการทั่วไป มีไข้สูง ผื่นแดง ปวดกล้ามเนื้อข้อต่อ แต่รักษาให้หายได้ เหตุที่คนกลัวเพราะกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์ เพราะทำให้ลูกศีรษะเล็กพิการแต่กำเนิด ขณะที่แพทย์ย้ำซิกาไม่ถึงตาย อันตรายน้อยน้อยกว่าไข้เลือดออก ที่ขณะนี้ป่วยแล้วกว่า 25,000 คน ตายแล้ว 5 คน
ข้อมูลจากสำนักงานควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาสะสม 97 รายจากทั่วประเทศ แต่อยู่ในภาวะควบคุมได้ โดยเพียง 12 อำเภอ ใน 6 จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วย และอยู่ในระยะของการควบคุมโรค โดยจังหวัดที่พบผู้ป่วยใหม่ก็ดำเนินการอย่างเข้มข้น ไม่ให้เจอผู้ป่วยเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย