กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.-ผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลงานประจำปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.58 ถึงปัจจุบัน มีเรื่องร้องเรียน 6,897 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 3,768 เรื่อง พบเรื่องร้องเรียนสูงที่สุดเป็นเรื่องเกี่ยวกับตำรวจ รองลงมาเป็นเรื่องการเมืองและการปกครองส่วนท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ธ.ค.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลงานประจำปี 2559 โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงปัจจุบัน มีเรื่องร้องเรียนจำนวน 6,897 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 3,768 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 3,129 เรื่อง ส่วนสถิติเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ก่อตั้งสำนักงานฯ ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน รับเรื่องร้องเรียนจำนวน 40,334 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 37,547 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 93.09 ทั้งนี้ในส่วนของประเด็นที่มีการร้องเรียนสูงที่สุดเป็นเรื่องเกี่ยวกับตำรวจ รองลงมาเป็นเรื่องการเมืองและการปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเรื่องที่ดิน หากแบ่งเป็นหน่วยงาน พบว่ากระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนมากที่สุด รองงมาคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พล.อ.วิทวัส รัชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ผ่านมาได้น้อมนำพะบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นหลักในการปฏิบัติภารกิจเพื่อแก้ไขเยียวยาบรรเทาทุกข์ของประชาชน และมีการยกระดับ พัฒนางานด้านสอบสวนให้เทียบเท่าสากล มีการดำเนินการอย่างรัดกุม ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ล่าสุดมีระบบรับเรื่องร้องเรียนในรูปแบบแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน ชื่อ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ซึ่งรองรับระบบปฏิบัติการ ios และ Android นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบติดตามผลการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงความร่วมมือกับต่างประเทศนั้นได้มีการลงนามความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลี และสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมและความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศคู่ภาคี
พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินฉบับใหม่นั้น แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะไม่มีอำนาจในการตรวจสอบด้านจริยธรรม รวมทั้งเรื่องการติดตามการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แต่มีขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่สำคัญ คือ 1.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่เป็นภาระของประชาชน 2.ตรวจสอบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอันมาจากการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานรัฐ ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่ และ 3.การให้ข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงหน่วยงานของรัฐที่ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ครบถ้วนตามหมวด 5 ของรัฐ ทั้งเรื่องรัฐต้องจัดการศึกษาภาคบังคับ 12 ปี เรื่องสาธารณสุข เรื่องการอณุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ การรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับประชาชนและหน่วยงานรัฐโดยตรง
“สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้แล้ว โดยได้ตั้งคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างและการบริหารจัดการของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะพร้อมทำงานในภารกิจตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้อย่างเต็มที่แน่นอน” พล.อ.วิทวัส กล่าว.-สำนักข่าวไทย