นนทบุรี 13 ก.ย. – พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธาน คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า วันนี้ (13 ก.ย.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเชิญ 89 สมาคม องค์กร และมูลนิธิ ที่ได้รับการจัดสรรสลากตั้งแต่ 20-10,000 เล่ม รวมสลากที่ได้รับประมาณ 20 ล้านคู่ มาสัมมนาหัวข้อ “นโยบายการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล” โดยเนื้อหาสำคัญต้องการให้สมาคม องค์กร มูลนิธิ ให้บริหารจัดการสลากอย่างโปร่งใส พร้อมดูแลสมาชิกไม่ให้จำหน่ายสลากเกินราคาที่กำหนด 80 บาท และไม่นำสลากที่ได้ไปขายส่งหรือขายผู้ซื้อต่อจนเกิดการรวมเล่มแล้วขายเกินราคา
นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ยังใช้โอกาสนี้ให้สมาคม องค์กร มูลนิธิ ลงนามในบันทึกข้อตกลงคุณธรรมที่เน้นย้ำเรื่องการไม่ยินยอมให้มีการนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขายเกินราคาทุกกรณีโดยเด็ดขาด และหากไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่สำนักงานสลากฯ กำหนดจะยินดีให้สำนักงานสลากดำเนินการลงโทษโดยไม่มีข้อเรียกร้องใด ๆ
สำหรับสถานการณ์ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคานั้น จากการส่งชุดเฉพาะกิจออกตรวจพบการขายเกินราคาและลงโทษตัดโควตาสลากไปแล้ว โดยตัดโควตารายย่อย 175 ราย ส่วนสมาคม องค์กร มูลนิธิ ที่สมาชิกรับสลากไปขายแล้วขายเกินราคา หากตรวจพบจะลงโทษตัดโควตาสมาชิกรายนั้น ๆ รายละ 5-10 เล่ม และนำโควตาที่ยึดมาไปจัดสรรให้สมาชิกรายอื่นที่สมาคม องค์กร มูลนิธิ ส่งรายชื่อมาแทน ปัจจุบันยังไม่มีองค์กรใดเข้าข่ายที่จะต้องถูกยึดโควตาสลากทั้งหมด
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ มีนโยบายที่จะให้สมาคม องค์กร มูลนิธิ สามารถบริหารองค์กรไปได้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอให้จัดสรรเงินร้อยละ 2 ให้กับสมาคม องค์กร มูลนิธิ แทนการจัดสรรสลาก ซึ่งทางสำนักงานสลากฯ ยังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องนี้ แต่ได้น้อมรับนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความเป็นห่วงคนพิการที่ปัจจุบันการดูแลด้านสวัสดิการสังคมของรัฐยังไม่ทั่วถึง จึงต้องการให้ได้รับสลากไปขายต่อก่อน เพราะคนพิการหนึ่งคนมีครอบครัวและคนที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน จึงต้องการให้มีอาชีพทำต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากฯ กำหนดแนวทางดำเนินการกับผู้จำหน่ายสลากเกินราคาในส่วนที่เป็นสมาคม องค์กร มูลนิธิ หากพบสมาชิกของสมาคมนำไปจำหน่ายเกินราคาแล้วถูกจับดำเนินคดีหรือการตรวจสอบสลากของกลางที่ถูกจับดำเนินคดีแล้วพบว่าเป็นสลากที่จัดสรรให้กับสมาคมฯ ใด จะแจ้งเตือนเป็นหนังสือให้ยกเลิกการจัดสรรให้สมาชิกที่ถูกจับดำเนินคดีหรือเป็นผู้ได้รับการจัดสรรสลากฉบับที่เป็นของกลาง จากนั้นสมาคมจะต้องแจ้งรายชื่อสมาชิกที่ได้รับการจัดสรรแทน โดยจะมีการแจ้งเตือน 2 ครั้ง หากพบการจำหน่ายสลากเกินราคาของสมาชิก หรือพบสลากของกลางที่เป็นของสมาคมฯ ครั้งที่ 3 สำนักงานสลากฯ จะดำเนินการตัดโควตาสลากตามจำนวนที่ผู้จำหน่ายเกินราคาได้รับการจัดสรรและผลการปฏิบัติต่าง ๆ ของสมาคมจะได้รับการบันทึกไว้ในฐานข้อมูลของสำนักงานสลากฯ เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำสัญญาดำเนินการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้.-สำนักข่าวไทย