กรมอนามัย 15 ตค..-กรมอนามัย หนุน วัยเรียน มีพฤติกรรมล้างมืออย่างถูกวิธีให้เป็นนิสัย หวังเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขอนามัยที่ดี เนื่องจากเป็นวัยที่นิยมเล่นของเล่นหรือหยิบจับสิ่งของต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ชี้ ล้างมือประจำ ป้องกันโรคติดต่อทางเดินอาหาร
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุกวันที่ 15 ตุลาคมของทุกปี สหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นวันล้างมือโลก (Global Hand Washing Day) เพื่อรณรงค์สร้างความรู้ ตระหนักและกระตุ้นให้เด็ก เยาวชน และประชากรทั่วโลกมีการล้างมือด้วยน้ำและสบู่อย่างถูกวิธีเป็นประจำ ซึ่งเป็นการป้องกันเชื้อโรคได้อีกทางหนึ่ง โดยข้อมูลจากองค์การยูนิเซฟ พบว่าในแต่ละปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลกเสียชีวิตจาก โรคอุจจาระร่วงประมาณ 3.5 ล้านคน และโรคปอดบวมประมาณร้อยละ 25 ในส่วนของประเทศไทย เด็กนักเรียนเป็นกลุ่มวัยที่ต้องให้ความสำคัญต่อการล้างมือมากเป็นพิเศษ เพื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขอนามัยที่ดี เนื่องจากเด็กวัยนี้นิยมเล่นของเล่นหรือหยิบจับสิ่งของต่างๆ รอบตัว ยิ่งในช่วงมีฝนตก ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะมืออาจสัมผัสกับน้ำสกปรก หากไม่มีการล้างมือให้สะอาด ก็อาจจะทำให้เสี่ยงนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้
ซึ่งผลการสำรวจพฤติกรรมที่พึงประสงค์เด็กวัยเรียน ปี 2560 ของกรมอนามัย โดยสอบถามนักเรียน อายุ 10 ปี จำนวน 4,745 คน และนักเรียน อายุ 12 ปี จำนวน 4,745 คน พบว่าเด็กนักเรียน อายุ 10 ปี และ 12 ปี ล้างมือด้วยสบู่ก่อนกินอาหารร้อยละ 53.1 และ 45.4 ตามลำดับ ส่วนการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังเข้าห้องส้วม เด็กนักเรียน อายุ 10 ปี ร้อยละ 67.6 และ 12 ปี ร้อยละ 76.2
ทั้งนี้ การล้างมือที่ถูกวิธีด้วยน้ำและสบู่ 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ฝ่ามือถูกัน 2) ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว 3) ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว 4) หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 5) ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ 6) ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ และ 7) ถูรอบข้อมือ ควรล้างก่อนทำอาหาร ก่อนกินอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หลังหยิบจับสิ่งปกปรก ก่อนและหลังเยี่ยมผู้ป่วย หลังเล่นกับสัตว์เลี้ยง และกลับจากนอกบ้าน แต่ในกรณีที่ไม่สะดวก ให้ใช้เจลล้างมือแทนได้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะช่วยลดพาหะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายและป้องกันโรคต่างๆ อาทิ โรคติดต่อทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วง โรคตับอักเสบชนิดเอ โรคบิด อหิวาตกโรค เป็นต้น
สำหรับวันล้างมือโลกในปี 2561 เน้นการจัดกิจกรรมในรูปแบบ “ขอให้ทุกคนมีมือที่สะอาด : Let’s give everyone a clean hand” ซึ่งไม่ใช่เพียงเป็นการเตือนให้ทราบว่าการล้างมือเป็นการป้องกันสุขภาพ แต่ยังรวมถึงเป็นการ “สร้างอนาคตสุขภาพ ด้วยมือเรา” ซึ่งต้องสร้างพฤติกรรมด้านสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีเป็นประโยชน์ต่อตัวเรา ครอบครัว และชุมชน” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย