เปิดรายจ่ายด้านการศึกษา พบงบเพิ่ม แต่คุณภาพถดถอย

กทม. 11 ต.ค.-  เปิดรายจ่ายด้านการศึกษาปี 51-59 พบงบเพิ่มทุกปี เเต่คุณภาพถดถอย ความเหลื่อมล้ำงบรายหัวมีมาก ห่างกัน 3 เท่า  สพฐ.ยอมรับที่ผ่านมา จัดสรรงบโดยไม่อิงพื้นที่ 


นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา “เจาะลึกรายจ่ายด้านการศึกษาของประเทศไทย “ ภายใต้โครงการพัฒนาระบบการจัดการทรัพยากรเพื่อพัฒนาสุขภาพเเละการศึกษาของนักเรียน ที่กสศ.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเเละธนาคารโลกจัดขึ้น เพื่อนำเสนอสถานการณ์รายจ่ายด้านการศึกษาที่จะนำไปสู่การเเก้ปัญหาเเละข้อเสนอเเนะด้านนโยบายต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


นายชัยยุทธ ปัญญสวัสดิ์สุทธิ์ หัวหน้าโครงการพัฒนาระบบการจัดการทรัพยากรเพื่อพัฒนาสุขภาพเเละการศึกษาของนักเรียน กล่าวว่า ได้จัดทำข้อมูลรายจ่ายด้านการศึกษา ปี 2551-2559 พบว่า  รายจ่ายด้านการศึกษาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 6.2 ต่อปี ใช้งบประมาณลงทุนปี 59 มากที่สุด เป็นเงิน 878,878 ล้านบาท เฉลี่ยเป็นรายจ่ายภาครัฐ 684,497 ล้านบาทเเละเป็นรายจ่ายครอบครัวเกือบ 2 เเสนล้านบาท ซึ่งถือได้ว่ารายจ่ายด้านการศึกษาของไทย คิดเป็นร้อยละ 6.1 ของGDP มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศ OECD ที่ร้อยละ 5.2 ของGDP

โดยมีรายจ่ายต่อคนต่อปีสูงถึงปีละ 56,538 บาท สูงกว่ารายจ่ายด้านสุขภาพเฉลี่ยต่อประชากรคนละ 7,354 บาทต่อปีหรือคิดเป็น 7.6 เท่า


เเต่คุณภาพการศึกษายังถดถอย เพราะผลคะเเนนการทดสอบทางการศึกษาเเห่งชาติหรือคะแนนPISA อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเเละมีเเนวโน้มลดลง

หากเจาะลึกรายจ่าย ภาครัฐลงทุนด้านการศึกษามากกว่าเอกชนในทุกระดับ โดยเฉพาะระดับประถมศึกษาสูงสุดร้อยละ 35 รองลงมาระดับมัธยมศึกษาเเละอุดมศึกษาร้อยละ 21 ขณะที่ระดับก่อนประถมศึกษาร้อยละ 9 และระดับอาชีวศึกษา ร้อยละ 5 ทั้งที่เป็นความต้องการของประเทศ โดยรายจ่ายด้านการศึกษา ร้อยละ 74ของงบการศึกษาเป็นรายจ่ายในหมวดบุคลากร เพราะ 3 ใน 4 ของครูทั้งหมด ได้รับค่าวิทยฐานะเเละครูส่วนใหญ่มีอายุราชการเฉลี่ยสูง 

ขณะที่ 5 อันดับจังหวัดที่ได้รับเงินอุดหนุนมากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เเละขอนแก่น ส่วนจังหวัดที่ได้รับเงินน้อยที่สุดคือ สมุทรสงคราม 

นายชัยยุทธ กล่าวอีกว่า สภาพความเป็นจริงการกระจายงบประมาณในเเต่ละพื้นที่ยังมีความเเตกต่างค่อนข้างมาก งบประมาณเฉลี่ยเเต่ละจังหวัดมีความเเตกต่างมากถึง 3 เท่า  ขณะที่บางจังหวัดนักเรียนได้รับงบประมาณรายจ่ายการศึกษาอยู่ที่ 27,145 บาท เเต่อีกจังหวัดได้รับสูงถึง 74,757 บาทต่อคนต่อปี โดยความเหลื่อมล้ำการจัดสรรทรัพยากรไม่ได้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจเเละสังคมในเเต่ละพื้นที่ ซึ่งทำให้เห็นว่า จังหวัดที่มีฐานะทางเศรษฐกิจของครัวเรือนที่ยากจนที่สุด ไม่ใช่จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรงบที่สูงกว่าจังหวัดที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่า การจัดสรรงบยังใช้รูปเเบบเดียวกันเเละอัตราที่เท่ากันทั่วประเทศ เเต่พื้นที่ โรงเรียนหรือเยาวชนเเต่ละเเห่งมีความต้องการไม่เหมือนกัน ซึ่งหากจะลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ต้องปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณที่มุ่งเน้นความเสมอภาคมากขึ้น เพราะจะช่วยให้ระบบการศึกษาไทยบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพเเละความเสมอภาคไปพร้อมกัน เพราะได้รับการจัดสรรตามความจำเป็น เเละรัฐจะประหยัดเงินจากรายจ่ายที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการ เพราะการเหลื่อมล้ำ เกิดจากการบริหารจัดการทรัพยากรของภาครัฐ เดิมรัฐมีงบเรื่องความเหลื่อมล้ำเกือบ 3 หมื่นล้านบาท เเต่ไปที่เด็กเเค่ร้อยละ 30 ซึ่งถือว่างบนี้ยังไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เด็กจริงๆ

ขณะที่นายสนิท เเย้มเกสร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สพฐ.ได้พัฒนาคุณภาพการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยในเรื่องรายจ่าย กระทรวงศึกษาธิการมีรายจ่ายด้านการศึกษาปีละ 5 เเสนล้านบาท โดยการคิดงบประมาณรายหัวของเด็กได้ประเมินถึงความเหมาะสม เเต่จะตัดสินใจฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงต้องพึ่งงานวิจัยเชิงลึก เพื่อใช้ในการพิจารณางบประมาณในการช่วยเหลือเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยอมรับว่าที่ผ่านมา การดำเนินงานยังไม่ถึงเป้าหมายที่อยากจะเห็นการศึกษาที่เท่าเทียมกัน การอนุมัติเงินงบประมาณมีการอิงพื้นที่น้อยเกินไป เพราะในเเต่ละจังหวัดเเตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ให้งบประมาณเท่ากันอาจจะทำให้ช่วยเหลือเด็กได้ไม่เท่ากัน จากนี้หลังได้ศึกษางานวิจัยจะต้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อระดมความคิดการให้งบประมาณอีกครั้ง โดยยึดเรื่องความจำเป็นพื้นฐานเเละจะช่วยเหลืออย่างไรให้มีคุณภาพเเละประสิทธิภาพ

 

ด้านนายดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามีแนวโน้มแย่ลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยคุณภาพการศึกษาถดถอยลง ทั้งๆ ที่งบประมาณต่อนักเรียนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48 ระหว่างปี 2010-2013 ซึ่งปัญหาการขาดประสิทธิภาพในการใช้จ่ายด้านการศึกษาส่วนใหญ่เกิดจากระดับประถมโดยมีค่าใช้จ่ายนักเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจในระดับเดียวกัน โดยประเทศไทยใช้จ่ายสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ภายในกลุ่มเชื้อชาติ (EAP) และสูงที่สุดเป็นอันดับ 20 จาก 112 ประเทศในโลกที่มีการรายงานสถิติ 

ขณะเดียวกัน การจัดสรรครูที่ขาดประสิทธิภาพเป็นสาเหตุหลักของปัญหาการจัดสรรงบประมาณในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสัดส่วนนักเรียนต่อครูในระดับประถมศึกษาของไทยอยู่ที่ 17 ต่อ 1 ซึ่งไม่ถือว่าสูงเมื่อเปรียบเทียบกับนานาชาติ โดยถือว่าอยู่ใกล้เคียงกับประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี แคนาดาและสหราชอาณาจักร 

ไทยมีจำนวนครูในระดับที่พอเหมาะกับจำนวนนักเรียน แต่ยังขาดประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรครูทำให้กว่าครึ่ง ห้องเรียนในระดับประถมขาดแคลนครูขั้นระดับวิกฤตและห้องเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนมากนี้เป็นสาเหตุหลักของความถดถอยด้านคุณภาพการศึกษา ซึ่งโรงเรียนขนาดเล็กส่วนใหญ่ต้นทุนสูงในการบริหารจัดการ มักได้รับการจัดสรรทรัพยากรไม่เพียงพอและนักเรียนด้อยโอกาสส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนขนาดเล็กเหล่านี้ ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำยิ่งย่ำแย่ไปอีก ทั้งนี้หากสพฐ.สามารถควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กตามแผน จะช่วยให้รัฐประหยัดงบประมาณได้มากถึง 49,000 ล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะจากเงินเดือนครูและมาตรการนี้จะช่วยส่งเสริมคุณภาพการศึกษาให้แก่ผู้เรียนเป็นอย่างมากโดยจะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]