เปิดรายจ่ายด้านการศึกษา พบงบเพิ่ม แต่คุณภาพถดถอย

กทม. 11 ต.ค.-  เปิดรายจ่ายด้านการศึกษาปี 51-59 พบงบเพิ่มทุกปี เเต่คุณภาพถดถอย ความเหลื่อมล้ำงบรายหัวมีมาก ห่างกัน 3 เท่า  สพฐ.ยอมรับที่ผ่านมา จัดสรรงบโดยไม่อิงพื้นที่ 


นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา “เจาะลึกรายจ่ายด้านการศึกษาของประเทศไทย “ ภายใต้โครงการพัฒนาระบบการจัดการทรัพยากรเพื่อพัฒนาสุขภาพเเละการศึกษาของนักเรียน ที่กสศ.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเเละธนาคารโลกจัดขึ้น เพื่อนำเสนอสถานการณ์รายจ่ายด้านการศึกษาที่จะนำไปสู่การเเก้ปัญหาเเละข้อเสนอเเนะด้านนโยบายต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


นายชัยยุทธ ปัญญสวัสดิ์สุทธิ์ หัวหน้าโครงการพัฒนาระบบการจัดการทรัพยากรเพื่อพัฒนาสุขภาพเเละการศึกษาของนักเรียน กล่าวว่า ได้จัดทำข้อมูลรายจ่ายด้านการศึกษา ปี 2551-2559 พบว่า  รายจ่ายด้านการศึกษาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 6.2 ต่อปี ใช้งบประมาณลงทุนปี 59 มากที่สุด เป็นเงิน 878,878 ล้านบาท เฉลี่ยเป็นรายจ่ายภาครัฐ 684,497 ล้านบาทเเละเป็นรายจ่ายครอบครัวเกือบ 2 เเสนล้านบาท ซึ่งถือได้ว่ารายจ่ายด้านการศึกษาของไทย คิดเป็นร้อยละ 6.1 ของGDP มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศ OECD ที่ร้อยละ 5.2 ของGDP

โดยมีรายจ่ายต่อคนต่อปีสูงถึงปีละ 56,538 บาท สูงกว่ารายจ่ายด้านสุขภาพเฉลี่ยต่อประชากรคนละ 7,354 บาทต่อปีหรือคิดเป็น 7.6 เท่า


เเต่คุณภาพการศึกษายังถดถอย เพราะผลคะเเนนการทดสอบทางการศึกษาเเห่งชาติหรือคะแนนPISA อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเเละมีเเนวโน้มลดลง

หากเจาะลึกรายจ่าย ภาครัฐลงทุนด้านการศึกษามากกว่าเอกชนในทุกระดับ โดยเฉพาะระดับประถมศึกษาสูงสุดร้อยละ 35 รองลงมาระดับมัธยมศึกษาเเละอุดมศึกษาร้อยละ 21 ขณะที่ระดับก่อนประถมศึกษาร้อยละ 9 และระดับอาชีวศึกษา ร้อยละ 5 ทั้งที่เป็นความต้องการของประเทศ โดยรายจ่ายด้านการศึกษา ร้อยละ 74ของงบการศึกษาเป็นรายจ่ายในหมวดบุคลากร เพราะ 3 ใน 4 ของครูทั้งหมด ได้รับค่าวิทยฐานะเเละครูส่วนใหญ่มีอายุราชการเฉลี่ยสูง 

ขณะที่ 5 อันดับจังหวัดที่ได้รับเงินอุดหนุนมากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เเละขอนแก่น ส่วนจังหวัดที่ได้รับเงินน้อยที่สุดคือ สมุทรสงคราม 

นายชัยยุทธ กล่าวอีกว่า สภาพความเป็นจริงการกระจายงบประมาณในเเต่ละพื้นที่ยังมีความเเตกต่างค่อนข้างมาก งบประมาณเฉลี่ยเเต่ละจังหวัดมีความเเตกต่างมากถึง 3 เท่า  ขณะที่บางจังหวัดนักเรียนได้รับงบประมาณรายจ่ายการศึกษาอยู่ที่ 27,145 บาท เเต่อีกจังหวัดได้รับสูงถึง 74,757 บาทต่อคนต่อปี โดยความเหลื่อมล้ำการจัดสรรทรัพยากรไม่ได้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจเเละสังคมในเเต่ละพื้นที่ ซึ่งทำให้เห็นว่า จังหวัดที่มีฐานะทางเศรษฐกิจของครัวเรือนที่ยากจนที่สุด ไม่ใช่จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรงบที่สูงกว่าจังหวัดที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่า การจัดสรรงบยังใช้รูปเเบบเดียวกันเเละอัตราที่เท่ากันทั่วประเทศ เเต่พื้นที่ โรงเรียนหรือเยาวชนเเต่ละเเห่งมีความต้องการไม่เหมือนกัน ซึ่งหากจะลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ต้องปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณที่มุ่งเน้นความเสมอภาคมากขึ้น เพราะจะช่วยให้ระบบการศึกษาไทยบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพเเละความเสมอภาคไปพร้อมกัน เพราะได้รับการจัดสรรตามความจำเป็น เเละรัฐจะประหยัดเงินจากรายจ่ายที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการ เพราะการเหลื่อมล้ำ เกิดจากการบริหารจัดการทรัพยากรของภาครัฐ เดิมรัฐมีงบเรื่องความเหลื่อมล้ำเกือบ 3 หมื่นล้านบาท เเต่ไปที่เด็กเเค่ร้อยละ 30 ซึ่งถือว่างบนี้ยังไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เด็กจริงๆ

ขณะที่นายสนิท เเย้มเกสร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สพฐ.ได้พัฒนาคุณภาพการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยในเรื่องรายจ่าย กระทรวงศึกษาธิการมีรายจ่ายด้านการศึกษาปีละ 5 เเสนล้านบาท โดยการคิดงบประมาณรายหัวของเด็กได้ประเมินถึงความเหมาะสม เเต่จะตัดสินใจฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงต้องพึ่งงานวิจัยเชิงลึก เพื่อใช้ในการพิจารณางบประมาณในการช่วยเหลือเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยอมรับว่าที่ผ่านมา การดำเนินงานยังไม่ถึงเป้าหมายที่อยากจะเห็นการศึกษาที่เท่าเทียมกัน การอนุมัติเงินงบประมาณมีการอิงพื้นที่น้อยเกินไป เพราะในเเต่ละจังหวัดเเตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ให้งบประมาณเท่ากันอาจจะทำให้ช่วยเหลือเด็กได้ไม่เท่ากัน จากนี้หลังได้ศึกษางานวิจัยจะต้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อระดมความคิดการให้งบประมาณอีกครั้ง โดยยึดเรื่องความจำเป็นพื้นฐานเเละจะช่วยเหลืออย่างไรให้มีคุณภาพเเละประสิทธิภาพ

 

ด้านนายดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามีแนวโน้มแย่ลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยคุณภาพการศึกษาถดถอยลง ทั้งๆ ที่งบประมาณต่อนักเรียนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48 ระหว่างปี 2010-2013 ซึ่งปัญหาการขาดประสิทธิภาพในการใช้จ่ายด้านการศึกษาส่วนใหญ่เกิดจากระดับประถมโดยมีค่าใช้จ่ายนักเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจในระดับเดียวกัน โดยประเทศไทยใช้จ่ายสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ภายในกลุ่มเชื้อชาติ (EAP) และสูงที่สุดเป็นอันดับ 20 จาก 112 ประเทศในโลกที่มีการรายงานสถิติ 

ขณะเดียวกัน การจัดสรรครูที่ขาดประสิทธิภาพเป็นสาเหตุหลักของปัญหาการจัดสรรงบประมาณในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสัดส่วนนักเรียนต่อครูในระดับประถมศึกษาของไทยอยู่ที่ 17 ต่อ 1 ซึ่งไม่ถือว่าสูงเมื่อเปรียบเทียบกับนานาชาติ โดยถือว่าอยู่ใกล้เคียงกับประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี แคนาดาและสหราชอาณาจักร 

ไทยมีจำนวนครูในระดับที่พอเหมาะกับจำนวนนักเรียน แต่ยังขาดประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรครูทำให้กว่าครึ่ง ห้องเรียนในระดับประถมขาดแคลนครูขั้นระดับวิกฤตและห้องเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนมากนี้เป็นสาเหตุหลักของความถดถอยด้านคุณภาพการศึกษา ซึ่งโรงเรียนขนาดเล็กส่วนใหญ่ต้นทุนสูงในการบริหารจัดการ มักได้รับการจัดสรรทรัพยากรไม่เพียงพอและนักเรียนด้อยโอกาสส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนขนาดเล็กเหล่านี้ ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำยิ่งย่ำแย่ไปอีก ทั้งนี้หากสพฐ.สามารถควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กตามแผน จะช่วยให้รัฐประหยัดงบประมาณได้มากถึง 49,000 ล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะจากเงินเดือนครูและมาตรการนี้จะช่วยส่งเสริมคุณภาพการศึกษาให้แก่ผู้เรียนเป็นอย่างมากโดยจะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]