ทำเนียบรัฐบาล 10 ต.ค.-นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานรักษาเอกลักษณ์ไทย เป็นจุดขายประเทศในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ขณะที่พล.อ.ฉัตรชัยขอให้วางแผนการใช้น้ำให้เหมาะสม หวั่นเดือดร้อนจากภัยแล้ง
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กำชับหน่วยงานราชการ และประชาชนรักษาจุดเด่นของประเทศไทย ภายหลังได้รับคำชื่นชมจากประเทศญี่ปุ่นถึงจุดเด่นของประเทศไทย คือเรื่องการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและอนุรักษ์เรื่องอาหารไทย เพื่อให้เป็นจุดขายของประเทศไทย และที่สำคัญต้องช่วยกันรักษารอยยิ้มของคนไทย ซึ่งในปีหน้าประเทศไทยจะเป็นประธานการประชุมอาเซียน
“คนไทยต้องมีมิตรไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การเป็นเจ้าบ้านที่ดี และการเป็นประธานอาเซียนจะต้องมีความรอบรู้เรื่องต่าง ๆ ในอาเซียนที่ต้องมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ ดังนั้น ทุกกระทรวงจะต้องยึดแนวทางข้างต้นกำหนดกิจกรรมต่าง ๆ ให้ข้าราชการปฏิบัติ เพื่อธำรงจุดเด่นต่าง ๆ ของไทยนี้ไว้ให้ได้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีได้รายงานเรื่องของการบริหารจัดการน้ำต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายหลังเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบอ่างเก็บน้ำและเขื่อนทั่วประเทศและพบว่าปัจจุบันมีเขื่อนอยู่ทั้งสิ้น 6 เขื่อนที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 50 ของความจุเขื่อน ได้แก่ เขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือ 2 แห่ง ใน จ.เชียงใหม่ ลำปาง ภาคตะวันเฉียงเหนือ 2 แห่ง ใน จ.ขอนแก่น บุรีรัมย์ ภาคกลาง 2 แห่ง จ.สุพรรณบุรี อุทัยธานี
“นับจากวันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม คาดว่าน่าจะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละ 3 ต่อเขื่อน จึงขอให้ทุกหน่วยงานวางแผนการใช้น้ำของประชาชนในแต่ละพื้นที่ให้ดี และเหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วน เพราะปีหน้าหากเกิดปัญหาภัยแล้ง อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนได้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
