นายกฯ ยืนยันความมุ่งมั่นร่วมพัฒนาอนภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

กรุงโตเกียว 9 ต.ค.- นายกฯ ร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 10  ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ยืนยันความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เน้นความเชื่อมโยงที่จะนำไปสู่เสถียรภาพ สันติภาพ ความกินดีอยู่ดี โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง  พร้อมร่วมผลักดันให้เป็นกลไกหลัก ที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง


“รวีวรรณ สมรภูมิ” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 10  ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  ระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม นี้ รายงานว่า  การประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 10 ได้เริ่มขึ้นแล้ว วันนี้ (9 ต.ค.)  


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่ง แสดงความชื่นชมกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง – ญี่ปุ่น ที่มีความทันสมัย ครอบคลุมความร่วมมือที่หลากหลาย  และมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และแสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นเป็นมิตรแท้ที่ยาวนาน และเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทย และอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมาโดยตลอด

“ไทยมุ่งมั่นร่วมมือกับญี่ปุ่น ในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยมีเป้าหมายพัฒนาความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งถือเป็นสายน้ำแห่งมิตรภาพและความร่วมมือ  เชื่อว่าการเชื่อมโยงต่างๆ จะนำไปสู่เสถียรภาพ สันติภาพ การพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้ง สร้างความกินดีอยู่ดีให้ประชาชน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี  ยืนยัน ไทยพร้อมสนับสนุนเสาความร่วมมือใหม่ 3 เสาหลัก ได้แก่ การพัฒนาความเชื่อมโยงที่ดีและมีประสิทธิภาพ  การสร้างประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง  และการสร้างความตระหนักรู้ต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงสีเขียว เพื่อเป็นการเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือด้านการส่งเสริมความเชื่อมโยง โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ ความเชื่อมโยงระดับประชาชน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการร่วมพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง  บนหลักการไว้เนื้อเชื่อใจกันของประเทศสมาชิก และผลักดันให้กรอบความร่วมมือนี้ เป็นกลไกหลักที่จะขับเคลื่อนการพัฒนา ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ภายหลังการประชุม ผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงแถลงข่าวร่วมกับผู้นำญี่ปุ่น  รับรองยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2008 เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น  โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เข้าร่วมการประชุมและพบกับประเทศสมาชิก สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนเจตนารมณ์ และความตั้งใจจริงของญี่ปุ่น ที่จะร่วมพัฒนาอนุภูมิภาคอย่างสร้างสรรค์ พัฒนาไปพร้อมกันอย่างมีคุณภาพ โดยมีเศรษฐกิจที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง  ทำให้อนุภูมิภาคมีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณญี่ปุ่น ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของแผนแม่บท ACMEC ระยะ 5 ปี และขอขอบคุณประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขงทุกประเทศ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ และมีส่วนสร้างความคืบหน้าให้แก่กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาอนุภูมิภาค  ไทยยืนยันที่จะมุ่งมั่นกระชับความร่วมมือกับประเทศสมาชิกในประเทศอนุภูมิภาค ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืนต่อไป

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นเน้นให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ใน  3 ด้าน คือ การให้เอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาภูมิภาค และการสร้างสรรค์สังคมและกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายลุ่มน้ำโขงที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และการสร้างความเป็นรูปธรรมและความตระหนักรู้ต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงสีเขียวต่อไป


สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น  ครั้งที่ 10  นายกรัฐมนตรีและผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขง ได้ร่วมรับประทานอาหารเช้ากับสมาชิกสมาคมมิตรภาพรัฐสภาญี่ปุ่น-แม่โขง และเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่โรงแรม  The new otani ก่อนออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังเรือนรับรองรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำประเทศผุ้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น  โดยมี นายอัตซึโกะ เปปปุ อธิบดีประจำเรือนรับรองรัฐบาลญี่ปุ่น ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี  และนำนายกรัฐมนตรีเดินผ่านกองทหารเกียรติยศ เพื่อเข้าไปภายในอาคารเรือนรับรองรัฐบาลญี่ปุ่น  และสัมผัสมือทักทายกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีมอบของขวัญในโอกาสการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนกระชับมิตรภาพ ระหว่างประเทศลุ่มน้ำโขงและญี่ปุ่น โดยผู้แทนนักฟุตบอลเยาวชนญี่ปุ่น  โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้มอบลูกบอลที่ระลึก เป็นของขวัญ ให้แก่กัปตันทีมฟุตบอลเยาวชนของแต่ละประเทศ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้มอบลูกบอลที่ระลึก เป็นของขวัญแก่กัปตันทีมฟุตบอลเยาวชนไทย 

ขณะที่  ผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขงและนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบเสื้อฟุตบอลที่ระลึก จากกัปตันทีมฟุตบอลเยาวชนของแต่ละประเทศ และร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับประธานสมาคมฟุตบอลของประเทศลุ่มน้ำโขงแต่ละประเทศ และประธานสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นและผู้แทนฟุตบอลเยาวชนที่เข้าร่วมพิธี    ..- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 30%

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30%

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน