สุราษฎร์ธานี 7 ต.ค.- ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา 3 นักท่องเที่ยวสัญชาติฝรั่งเศส มีความผิดฐานแจ้งความเท็จถูกปล้นทรัพย์สิน
พ.ต.อ.ธงชนะ หาญกิตติกาญจนา รรท.ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กรณีวันที่ 4 ต.ค. น.ส.พริซซิลา มองก้า อายุ 31 ปี นายไบรอัน ดูบัว อายุ 25 ปี และนายยาน ชัสเทล อายุ 32 ปีสัญชาติฝรั่งเศส มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยว่า โดนคนร้ายเป็นชาย 5 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 3 คัน ก่อเหตุใช้อาวุธมีดดักปล้นเอาทรัพย์สินที่นำติดตัวมาทั้งหมด ก่อนที่คนร้ายผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไป โดยนักท่องเที่ยวให้การว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 3 ต.ค. นักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน ได้ยืนเรียกรถสองแถวโดยสารสาธารณะริมถนนหน้าโรงแรมลมทะเลวิลล่า ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย เพื่อไปหาโรงแรมที่พักแห่งใหม่ที่หาดละไม ต.มะเร็ต แต่เมื่อรถสองแถววิ่งไปได้ประมาณ 30 นาที รถก็จอดให้ผู้โดยสารคนอื่นลง แต่ 3 นักท่องเที่ยวก็เข้าใจว่าถึงที่หมายแล้วก็เลยเดินลงจากรถสองแถว และเดินต่อเข้าไปภายในซอยไม่ทราบว่าที่ใดเพื่อหาโรงแรมที่พัก ระหว่างที่เดินอยู่นั้นได้แจ้งว่าไปพบกับบุคคลเป็นชาย 5 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 3 คัน พร้อมกับอาวุธมีด มาดักปล้นเอาทรัพย์สินที่นำติดตัวมาทั้งหมด ก่อนที่คนร้ายผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไป
แต่จากการสืบสวนพบพิรุธว่า น.ส.พริซซิลา มองก้า นายไบรอัน ดูบัว และนายยาน ชัสเทล นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสไม่สามารถยืนยันบริเวณจุดเกิดเหตุได้และเวลาที่แน่ชัดได้ ชุดสืบสวนจึงได้สืบสวนเกี่ยวกับรถสองแถวโดยสารที่นักท่องเที่ยวกล่าวอ้างว่าโดยสารไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิด และหลังจากสอบถามปากคำคนขับรถสองแถวโดยสาร ไม่พบพยานหลักฐานใด และเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพักของนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ปรากฎว่าพบทรัพย์สินบางส่วนที่ถูกกล่าวอ้างว่าถูกคนร้ายเอาไป จึงได้ซักถามปากคำโดยละเอียดจนนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คนยอมรับว่าสร้างเรื่องและได้แจ้งความอันเป็นเท็จจริง ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณห้องพักข้างเคียงที่นักท่องเที่ยวพักอยู่ ได้พบทรัพย์สินที่มีการแจ้งหายซุกซ่อนเอาไว้ จึงเชื่อได้ว่าบุคคลทั้งสามวางแผนแจ้งความอันเป็นเท็จจริง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.พริซซิลา มองก้า อายุ 31 ปี นายไบรอัน ดูบัว อายุ 25 ปี และนายยาน ชัสเทล อายุ 32 ปี ทั้งหมดสัญชาติฝรั่งเศส ว่ามีความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 173 “ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย
