พรรคประชาธิปัตย์ 5 ต.ค.-ชาญชัยอุทธรณ์คดีฟ้องบอร์ด ทอท. – คิง เพาเวอร์ หลังศาลชั้นต้นวินิจฉัยไม่มีอำนาจฟ้อง ย้ำเดินหน้าเอาผลประโยชน์คืนชาติ
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.นครนายก ในฐานะอดีตรองประธานอนุกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า จากกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ในประเด็นที่ตนเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย 18 คนซึ่งเป็นคณะกรรมการของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.)และบริษัทเอกชน 3 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ โดยศาลได้มีคำพิพากษาฉบับเต็มเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561
“ศาลวินิจฉัยกรณีข้อเท็จจริงว่าหากกระทำความผิดตามฟ้อง ซึ่งใช้การไต่สวนนานประมาณ 8 เดือน และได้ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติว่าเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 ศาลมองในข้อกฎหมายว่า เป็นเหตุที่เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะซื้อหุ้น การกระทำความผิดดังกล่าวจึงไม่กระทบมาถึงผมในฐานะผู้ซื้อหุ้น ความผิดไม่ได้ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ศาลจึงถือว่าผมไม่ได้รับความเสียหายทางกฏหมาย จึงชี้ว่าผมไม่มีอำนาจฟ้อง ทั้งนี้ ผมเคารพในคำพิพากษาของศาล แต่ยังคงรักษาสิทธิ์ โดยจะอุทธรณ์คดีต่อศาลอุทธรณ์ต่อไปเรื่องอำนาจฟ้องให้เกิดความเสียหาย โดยมูลค่าความเสียหายของคดีนี้อยู่ที่ 14,290 ล้านบาท ถ้าผมไม่ดำเนินการต่อก็ไม่รู้ว่าหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบเข้ามาดำเนินการ” นายชาญชัย กล่าว
นายชาญชัย กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำคำพิพากษานี้ไปมอบให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนำไปจัดการเรื่องนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลโดยด่วน ที่ศาลพิพากษาชี้ว่าแม้ตนไม่มีอำนาจฟ้อง แต่นายกรัฐมนตรีถือว่าเป็นผู้มีอำนาจในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานภาครัฐจะต้องสั่งการให้นำเงิน 14,290 ล้านบาทกลับคืนเข้าคลังของแผ่นดินให้ได้ ส่วนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลเรื่องหุ้นของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ซึ่งทอท.ถือเป็นรัฐวิสากิจที่กระทรวงคลังถือหุ้นอยู่ 70% นับว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จึงเป็นผู้เสียหายโดยตรง และสามารถดำเนินการในฐานะผู้กำกับดูแลได้
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถือเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลทอท.โดยตรง ถือว่ามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและจัดการตามกฎหมาย ผลการดำเนินการจะเป็นอย่างไร จะร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเป็นการดำเนินการขั้นตอนสุดท้าย กรณีนี้จึงเป็นการทวงเงินคืนให้กับแผ่นดินให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล” นายชาญชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย
