กลุ่มรถ-เรือยังไม่ปรับขึ้นค่าโดยสาร


กรุงเทพฯ 4 ต.ค.-ผู้ประกอบการรถและเรือโดยสาร ยังไม่ขึ้นค่าโดยสาร แต่หวังรัฐช่วยเหลือ ลุ้น บขส เก็บขา ตามจริงภายในเดือนนี้ ด้านการบินไทยยอมรับอาจปรับค่าธรรมเนียมน้ำมันขึ้นอีก ส่วน ปตท.พร้อมช่วยตรึงดีเซล

นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร  กล่าวว่าผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังปรับสูงขึ้นและแม้ว่าภาครัฐจะช่วยตรึงราคาไว้ แต่ผู้ประกอบการก็มีผลกระทบจากต้นทุนอื่นๆเช่นค่าซ่อมบำรุงค่าแรง ที่เป็นภาระกับผู้ประกอบการอย่างมาก โดยในส่วนของสมาคมฯ ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการลองควบต้นทุนในบริษัทของตัวเองแล้ว


อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการยังรอพร้อมหวังที่หน่วยงานภาครัฐอย่างบริษัทขนส่งจำกัด หรือ บขส. จะเร่งดำเนินการตามข้อหาหรือที่คุยกันไว้ โดยเฉพาะมาตรการเก็บค่าขาตามจริง เนื่องจากที่ผ่านมาหากผู้ประกอบการที่แจ้งการเดินรถ ในฐานะผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ไว้ 10 เที่ยว ต่อวัน แต่สถานะปัจจุบันหากจำนวนผู้โดยสารไม่มากและต้องลดเที่ยววิ่งลง ผู้ประกอบการยังต้องจ่ายค่าขา 10 เที่ยวต่อวัน จ่ายเป็นภาระอย่างมากดังนั้นหากผู้ประกอบการ สามารถจ่ายค่าขาได้ตามจริงก็จะช่วยลดภาระได้อย่างมาก.  

นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นคร ชัยแอร์ จำกัด กล่าวว่าสำหรับมาตรการจ่ายค่าขาตามจริงนั้นทราบว่า บขส. เริ่มใช้ภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งผู้ประกอบการก็รออย่างมีความหวัง ส่วนประเด็นเรื่องขอปรับขึ้นค่าโดยสาร ที่ขณะนี้กรมการขนส่งทางบก จะรับไปช่วยดูแล ผู้ประกอบการที่เขียนว่าสถานการณ์ขณะนี้ผู้ประกอบการไม่ได้ต้องการปรับขึ้นค่าโดยสารทราบดีว่า จะกลายเป็นภาระแก่ผู้ใช้บริการ สุดท้าย ก็จะทำให้จำนวนการเดินทางของลูกค้าลดลง. โดยหากภาครัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือ ว่ามาจากการชดเชยต้นทุนราคาน้ำมันให้แก่ผู้ประกอบการน่าจะมีประโยชน์มากกว่า

นายเชาวลิต เมธยะประภาส  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบกล่าวว่าผลกระทบจากสภาพการจราจรที่ติดหนักขนาดนี้เนื่องจากมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั่วกรุง ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเปลี่ยนมาใช้บริการเรือโดยสารเพิ่ม โดยจากการติดตามตัวเลขขณะนี้พบว่าผู้ใช้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อวันประมาณ ร้อยละ5ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเพิ่มเที่ยวเรือรองรับ และต้องมีการใช้น้ำมันดีเซล เพิ่มประมาณวันละ 1000 ลิตร  และจากการหารือเพื่อขอมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ก็มีข้อเสนอที่จะมีการจัดหาน้ำมันดีเซลปาล์ม ที่มีราคาถูกกว่ามาจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งขณะนี้ทางผู้ประกอบการก็ยังรอความชัดเจนของมาตรการดังกล่าวอยู่



นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวปัจจัยราคาน้ำมัน ที่ยังปรับตัวขึ้นสูงต่อเนื่อง  หากมีความจำเป็นถึงจุดหนึ่ง ต้องมีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน การบินไทยก็ต้องดำเนินการ เพียงแต่การปรับขึ้นนั้น ต้องรอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา การบินไทย ได้ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิงในเส้นทางระหว่างประเทศ 58 เส้นทาง โดยการปรับขึ้นของค่าธรรมเนียมน้ำมันดังกล่าว การบินไทยได้มีการประเมินจากปัจจัยภายในและภายนอกแล้ว ทั้งต้นทุนน้ำมันที่การบินไทยแบกรับอยู่ขณะนี้ ประกอบกับสายการบินต่างๆในโลกก็ได้ทยอยปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันไปแล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ยังมั่นใจว่าการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันดังกล่าว จะไม่กระทบต่อยอดจองผู้โดยสาร โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 นี้ ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) และคาดอัตราการบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน (เคบิ้นแฟกเตอร์) ไตรมาส 4 จะสูงกว่า ร้อยละ80

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงนี้จนถึงสิ้นปี คาดว่าจะเคลื่อนไหวในระดับ 80-90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ ที่จะทำให้ปริมาณน้ำมันหายไปจากตลาด ขณะที่ตะวันออกกลางยังไม่สามารถเพิ่มการผลิตได้เร็ว อย่างไรก็ตามความต้องการใช้น้ำมันก็มีมากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐ และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นในช่วงนี้ก็ทำให้มีการขุดเจาะหลุมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะยังเป็นแรงกดดันต่อทิศทางราคาน้ำมันด้วย โดยมองว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เหมาะสมควรอยู่ในระดับ 65-75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับขึ้นไป ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศขยับตามไปด้วย ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงาน ก็ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาดูแลเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชน ส่วนค่าการตลาดน้ำมันดีเซลของปตท.ที่อยู่ในระดับต่ำนั้น ก็นับว่ายังยอมรับได้เพราะเป็นการดูแลทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันปตท.ก็ยังมีรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ ภายในสถานีบริการน้ำมันเข้ามาช่วยชดเชยค่าการตลาดที่ตกต่ำได้-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]