กรุงเทพฯ 4 ต.ค.- ผู้ว่าฯกทม.ย้ำหลายแนวทางแก้ปัญหานกพิราบ ล่าสุดสั่งปรับปรุงศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดเขตประเวศ ต่อเติมกรงเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้นกที่จับมาประมาณ 1 พันตัว ในระหว่างรอการขนย้ายสู่ธรรมชาติ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ว่า ที่ประชุมได้รายงานปัญหาจากนกพิราบที่มีการแพร่พันธุ์จำนวนมาก ซึ่งนกพิราบที่เพิ่มส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากการให้อาหารของมนุษย์ ทำให้จุดนั้นๆ กลายเป็นแหล่งรวมตัวของนกพิราบจำนวนมาก ซึ่งนอกจากสร้างปัญหาความเดือดร้อนรำคาญ นกพิราบยังเป็นอันตราย เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคจากสัตว์สู่คนได้อีกด้วย
ขณะนี้ กทม.โดยสำนักอนามัย และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้ติดป้ายขอความร่วมมือห้ามให้อาหารนกพิราบ ตามแหล่งที่มีการร่วมกลุ่มของนก พิราบ และหากเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ทำป้าย 3 ภาษา เพื่อ ขอความร่วมมือกลุ่มชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ได้ประสานกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ตามวัดต่างๆ ไม่ให้มีการขายอาหารนกพิราบ จัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ตักเตือน จับปรับอย่างเข้มข้นกับผู้ฝ่าฝืนให้อาหาร และจำหน่ายอาหารอย่างจริงจัง
ส่วนการเคลื่อนย้ายนกพิราบออกจากพื้นที่นั้นสำนักอนามัยได้ประสานกับสำนักงานเขตและกรมปศุสัตว์ ร่วมกันจับนกพิราบในจุดที่มีนกจำนวนมาก เพื่อแก้ปัญหาในระยะสั้น ซึ่งได้สั่งการให้มีการปรับปรุงศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดเขตประเวศ เพิ่มเติมในส่วนที่สามารถปรับปรุงต่อเติม กรง สำหรับเป็นที่พักพิงชั่วคราวของนกพิราบที่จับมา โดยให้สามารถรองรับนกพิราบได้ประมาณ 1,000ตัว เพื่อเป็นที่ดูแลนกในระหว่างรอการขนย้ายสู่ธรรมชาติต่อไป
อย่างไรก็ตามการจับนกพิราบออกจากพื้นที่ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยต้นเหตุของการเพิ่มจำนวนนกพิราบนั้น คือการให้อาหาร ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนผู้ใจบุญ ไม่ให้อาหารนก ซึ่งนกพิราบ เมื่อไม่มีแหล่งอาหารก็จะเคลื่อนย้ายถิ่นไปยังจุดอื่น โดยนกสามารถหาอาหารตามธรรมชาติได้ ซึ่งเมื่อไม่มีการให้อาหารก็จะช่วยให้นกลดลงแบบถาวร.- สำนักข่าวไทย
