กองบัญชาการกองทัพไทย 3 ต.ค.- ผบ.ทสส.ประกาศนโยบายยึดยุทธศาสตร์ชาติ ย้ำเทิดทูนสถาบัน ตอบสนองเหตุก่อการร้ายภายใน 30 นาที สั่งทหารเคร่งครัดวินัย
พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วย นาวาเอก สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ พ.อ.หญิง ฉัตรรพี พูนศรี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงภาพรวมนโยบายของ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด คนใหม่
พล.ต.กฤษณ์ กล่าวว่า ในการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง(นขต.)ครั้งแรก วันนี้ ผบ.ทสส.ได้กล่าวถึงนโยบายการทำงานว่า กองบัญชาการกองทัพไทย จะยึดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมถึงแผนแม่บทที่เกี่ยวข้อง และนโยบายของรัฐบาล เป็นสำคัญ พร้อมย้ำกำลังพลทุกนายพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนกิจกรรมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะกิจกรรมที่กองบัญชาการกองทัพไทย ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเช่น การแข่งขันราชวัลลภเริงระบำ การแข่งขันกองทหารเกียรติยศ โครงการจิตอาสาพระราชทาน เป็นต้น
ส่วนด้านการป้องกันประเทศ ให้ปรับปรุงการปฏิบัติงานของศูนย์บัญชาการทางทหาร (ศบท.) ทั้งในด้านกำลังพล ระบบงาน และยุทโธปกรณ์ เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์ วางแผน ควบคุม และอำนวยการปฏิบัติต่อศูนย์ปฏิบัติการเหล่าทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม
ให้มีการฝึกในที่ตั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ของ ศบท. เช่น งานด้านการข่าว และระบบฐานข้อมูล ต้องใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานได้จริงและทันเวลา รวมถึงเพิ่มบทบาทของคณะผู้บัญชาการทหาร โดยจัดให้มีการประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร ก่อนการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ทุกครั้ง ส่วนการฝึกร่วมต่าง ๆ ต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เน้นความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ตรวจสอบและผลได้
โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ยัง กล่าวถึงนโยบายด้านการรักษาความมั่นคงของรัฐ ว่า จะดำรงความต่อเนื่องสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ เช่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความระหนักรู้ให้กับกำลังพลทุกระดับเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านไซเบอร์ โดยการเปิดหลักสูตรอบรมฯ และการแข่งขันทางไซเบอร์ ในระดับกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อให้เป็นไปตามมติ สภากลาโหม เมื่อ 31 ม.ค.61
“ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล หรือ ศตก. จะต้องเตรียมกำลังให้พร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการก่อเหตุร้ายฯ ได้ภายใน 30 นาที ตามนโยบายที่ผู้บังคับบัญชากำหนด และควรเพิ่มบทบาทในเชิงป้องกัน โดยให้ความสำคัญกับงานด้านการข่าวมากขึ้น พล.ต.กฤษณ์ กล่าว
ด้าน น.อ.สุรสันต์ กล่าวถึงความร่วมมือทางทหารกับต่างประเทศ ว่า แบ่งเป็นระดับ เพื่อนบ้าน อาเซียน มหาอำนาจ และอื่น ๆ ซึ่ง ปี 2562 ไทยเป็นประธานอาเซียน กองบัญชาการกองทัพไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ผบ.ทสส.อาเซียน ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 6-8 มี.ค 2562 นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าภาพร่วมกับสหรัฐอเมริกา จัดการประชุมผู้นำทางทหารภาคพื้นอินโด – แปซิฟิค ระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค.2562 ด้วย นอกจากนี้ยังมีการฝึกร่วมผสม คอบร้าโกลด์ 2019 และจะเริ่มฝึกปฏิบัติการด้านไซเบอร์ เป็นครั้งแรก
ส่วนการช่วยเหลือประเทศอินโดนีเซีย หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิถล่ม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก น.อ.สุรสันต์ กล่าวว่า กองบัญชาการกองทัพไทย เน้นปฏิบัติตามนนโยบายของรัฐบาล โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นคนประสาน ซึ่งในส่วนของกองทัพไทยพร้อม 100% ตอนนี้อยู่ในขั้นเตรียมพร้อมกำลังพลและเครื่องมือในส่วนของชุดแพทย์ ทีมช่าง และอากาศยานของกองทัพอากาศ พร้อมให้การช่วยเหลือทันทีที่อินโดนีเซียร้องขอ
ด้าน พ.อ.หญิง ฉัตรรพี กล่าวว่า ผบ.ทสส. เน้นย้ำกำลังพลให้เคร่งครัดในระเบียบวินัย ปฏิบัติตัวให้เหมาะสมขโดยผู้บังคับบัญชาต้องกวดขันใกล้ชิด รวมถึงส่งเสริมให้กำลังพลมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ ภาษาเพื่อนบ้าน เพิ่มเติม.- สำนักข่าวไทย