ขนส่งคุมเข้มรถตู้อายุเกิน 10 ปี

กรุงเทพฯ  3 ต.ค. – กรมการขนส่งทางบกติดตามรถตู้อายุเกิน 10 ปีอย่างใกล้ชิด พร้อมเสริมรถทุกเส้นทาง รองรับการเดินทางของประชาชนอย่างเพียงพอ แนะผู้ประกอบการต้องการเปลี่ยนรถใหม่ติดต่อศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรถตู้โดยสารประจำทาง 


นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อให้การติดตามและแก้ไขปัญหาการเดินรถตู้โดยสารที่จะครบกำหนดอายุ 10 ปี ไม่ให้ส่งผลกระทบผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะใน 20 เส้นทางที่มีจำนวนรถตู้หมดอายุการใช้งาน 487 คัน เบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกได้ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถตู้โดยสารที่ให้บริการเส้นทางอื่นนอกเหนือจาก 20 เส้นทางดังกล่าวมาเสริมในเส้นทางที่มีรถตู้ไม่เพียงพอตามสัดส่วน พร้อมทั้งจัดรถโดยสารปรับอากาศ 65 คัน เพื่อสำรองให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารทั้ง 4 จุดทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, มีนบุรี ,รังสิต และจตุจักร ตั้งแต่เวลา 05.30 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบกจึงได้จัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหาและการสำรองรถไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน พร้อมประเมินสถานการณ์การเดินรถเพียงพออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีรถตู้โดยสารให้บริการเพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง อีกทั้งส่งเจ้าหน้าที่ตรวจการขนส่งทางบกติดตามสถานการณ์บริเวณจุดจอดรอขึ้นรถตู้โดยสาร และที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเดินรถมีเพียงพอกับผู้โดยสาร

นายพีระพล กล่าวต่อไปว่า การกำหนดอายุรถตู้โดยสารห้ามเกิน 10 ปี ดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ครั้งที่ 8 /2551 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2551 ซึ่งมีผลใช้บังคับตามกฎหมายให้ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและรักษามาตรฐานคุณภาพการให้บริการ เนื่องจากสภาพรถที่เก่าเครื่องอุปกรณ์ใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้ง และมีค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่ารถใหม่ทำให้เกิดความไม่คุ้มทุน และรถที่มีอายุเกิน 10 ปี บริษัทประกันภัยจะไม่รับทำประกันภัย ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และผู้โดยสารไม่ได้รับความคุ้มครอง 


นอกจากนี้ รถที่มีอายุการใช้งานมากจะก่อให้เกิดปัญหาด้านมลพิษและเมื่อรถเสียทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดมากขึ้น ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ รวมถึงมีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสม เพื่อจูงใจและลดผลกระทบของผู้ประกอบการ อาทิ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บขส., ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ภายใต้โครงการ “เปลี่ยนรถโดยสารประจำทางขนาดเล็กแทนรถตู้โดยสาร” และจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรถตู้โดยสารประจำทาง ณ บริเวณอาคาร 3 ชั้น 1 อำนวยความสะดวกให้คำปรึกษาแนะนำกรณีรถตู้โดยสารประจำทางจะครบกำหนดอายุ 10 ปี และขั้นตอนการจดทะเบียนรถแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One stop service) เพื่อช่วยเหลือเจ้าของรถในกรณีที่มีความประสงค์ที่จะทำการเปลี่ยนรถทดแทนรถคันเดิมที่หมดอายุให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้