เอสเอ็มอีแบงก์ ทาวเวอร์ 4 ต.ค. – สคร.เตรียมสรุปความต้องการกองทุน TFFIF ทั้ง กบข. กองทุนประกันสังคม แบ่งจัดสรรรายย่อย ผลตอบแทนร้อยละ 4.75-5.3 คาดนักลงทุนสนใจ เพราะเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานกองแรกของรัฐบาล เตรียมเปิดให้รายย่อยจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย ช่วง 12-19 ตุลาคมนี้
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า วันที่ 12 ตุลาคม จะมีความชัดเจนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) อนุมัติแผนจำหน่ายครั้งสุดท้าย จากนั้นเตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อวันที่ 12-19 ตุลาคมนี้ เป็นเวลา 8 วัน กำหนดราคาขาย 10 บาทต่อหน่วย เปิดให้จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย เป็นเงิน 10,000 บาท เบื้องต้นปีแรกผลตอบแทนร้อยละ 4.75-5.3 คำนวณจากกระแสรายรับ ยังไม่ตัดค่าใช้จ่าย หลังจากสรุปการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบัน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) วันที่ 5 ตุลาคม จากนั้นจะกำหนดผลตอบแทนอย่างเป็นทางการกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยเน้นจำหน่ายนักลงทุนรายย่อยเป็นหลัก หากจองทั้งหมดจะให้รายย่อยทั้งหมด เพราะได้รับยกเว้นภาษีเงินปันผล 10 ปี ด้วย
หลังได้ชี้แจงข้อมูลกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ให้กับนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนต่างชาติในต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุน เพราะเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานกองแรกของรัฐบาล เพื่อระดมทุนจากนักลงทุนและเป็นกองทุนมีอายุถึง 30 ปี ยาวกว่าหลายกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และนักลงทุนมองว่ากระแสเงินสดรายได้ค่าผ่านทางเพื่อนำมาสร้างโครงการใหม่เป็นการเชื่อมต่อทางด่วน เปิดทางให้รถวิ่งขึ้นทางด่วนได้มากขึ้นทั้งด้านเหนือและด้านใต้ของกรุงเทพฯ และที่ผ่านมาการระดมทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กองทุนของบีทีเอสให้ผลตอบแทนร้อยละ 6.5 เพราะความเสี่ยงสูงกว่าอายุ 10 ปี กองทุน TFFIF จึงเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน
สำหรับการระดมทุนของกองทุน TFFIF อิงรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทาง เป็นระยะเวลา 30 ปี มองแนวโน้มการใช้ทางพิเศษฯ เพิ่มขึ้นทุกปี โดยช่วงที่ผ่านมาปี 2558-2560 มีโอกาสรับรายได้จากทางพิเศษฉลองรัชระยะทาง 28.2 กม. และทางพิเศษบูรพาวิถีระยะทาง 55 กิโลเมตร เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เส้นทางทั้ง 2 แห่งเฉลี่ยการเติบโตร้อยละ 4.7 ต่อปี ส่วนรายได้ปี 2562 คาดว่านำส่งเข้ากองทุน TFFIF ประมาณ 2,200 ล้านบาท สำหรับเงินลงทุนจากการจัดตั้งกองทุน TFFIF การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เตรียมนำรายได้ขยายโครงการก่อสร้างทางพิเศษ 2 สายทาง ได้แก่ 1.โครงการทางพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และ 2.โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก ทั้ง 2 โครงการคิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมประมาณ 45,000 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย