สระบุรี 2 ต.ค.-ตำรวจเตรียมเรียกครูพละที่ก่อเหตุตบนักเรียนชาย ป.1 จนหน้าบวมช้ำ มารับทราบข้อกล่าวหา ล่าสุด ครูพละเดินทางมายังบ้านของเด็ก ขอยอมรับผิดทั้งน้ำตา ขณะที่ยายเด็กยอมรับในความเป็นลูกผู้ชายของครู แต่เรื่องคดีความก็ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด
นางสายพิน อายุ 53 ปี พร้อมหลานชายวัย 7 ขวบ ขึ้นโรงพักหน้าพระลาน จ.สระบุรี เป็นครั้งที่ 2 หลังถูกครูพละตบหน้าระหว่างกำลังสอนวาดรูป ต่อหน้าเพื่อนๆ ภายในห้องชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี นางสายพิน เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวัน ศุกร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ประมาณ 10.00 น. ขณะครูพละคนดังกล่าวกำลังสอนวิชาวาดเขียน ช่วงนั้นหลานตนเองถูกเพื่อนแกล้งด้วยการใช้นิ้วจิ้มที่ตา จากนั้นหลานชายจึงใช้ดินสอแทงไปที่หัวของเพื่อน เมื่อครูพละเห็นเหตุการณ์จึงตรงเข้ามาตบหน้าหลานชาย 4 ครั้งจนหลานเซจะล้ม จากนั้นครูพละพยายามปฐมพยาบาล โดยไม่ส่งโรงพยาบาล หรือแจ้งให้ผู้ปกครองเด็กทราบ แต่ตนเองมาทราบเรื่องในช่วงเย็นของวันเดียวกัน หลังจากที่หลานชายกลับมาถึงบ้าน และมีอาการไข้ขึ้นสูง ตนเองจึงพาหลานชายไปโรงพยาบาลพระพุทธบาท
พ.ต.ท.ทัศนะ หอมทวนลม ตำแหน่งพนักงานสอบสวน สภ.หน้าพระลาน เบื้องต้นได้สอบสวน 2 ยายหลาน และจะนัดให้อัยการจังหวัดสระบุรีและเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เข้าสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะออกหมายเรียกครูพละมาสอบสวนรับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย
ขณะที่ครูพละคนดังกล่าวออกมายอมรับว่า กระทำรุนแรงกับเด็กนักเรียนเกินไป สาเหตุจากตนเองมีความฝังใจในวัยเด็กกับเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกัน สมัยเรียนชั้นประถมเคยถูกเพื่อนใช้ดินสอแทงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เมื่อตนเองมาพบเหตุการณ์ลักษณะนี้จึงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ใช้มือตบไปที่หน้าเด็ก นักเรียน 4 ครั้ง พร้อมทั้งออกมายอมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางเมทินี พิทักษ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว โรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจหลังเกิดเหตุ ได้พยายามประสานพูดคุยกับผู้ปกครองเด็ก พร้อมทั้งดำเนินการตามคำขอของผู้ปกครอง โดยให้ครูพละย้ายสถานที่สอนชั่วคราว และตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ล่าสุด ครูพละคนดังกล่าว พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงเรียน เดินทางมายังบ้านของยายสายพิน และยกมือไหว้ พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง และขอยอมรับผิด พร้อมนำกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกายมอบให้นางสายพิน พร้อมกล่าวคำขอโทษอีกครั้ง โดยมีใบหน้าที่เศร้า และน้ำตาเริ่มไหลลงบนใบหน้า
ด้านยายสายพิน กล่าวว่า ตนเองยอมรับในความเป็นลูกผู้ชายของครูพละ แต่ในเรื่องของคดีความนั้นจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เนื่องจากได้ดำเนินการไปแล้ว จะไม่เปลี่ยนใจ.-สำนักข่าวไทย