ก.เกษตรฯ เร่งขับเคลื่อนโครงการปลูกพืชหลังนา

กรุงเทพฯ  2 ต.ค. – รมว.เกษตรฯ เร่งใช้เวลาที่เหลือ 1 เดือน เตรียมพร้อมทุกภาคส่วนดำเนินตามนโยบายสานพลังประชารัฐ หนุนปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการทำนาปรัง ตั้งแต่ พ.ย.นี้


นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการด่วนไปยังผู้บริหารกระทรวง กรมต่าง ๆ อีกทั้งในวันนี้จะประชุมข้าราชการทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อกำชับขั้นตอนการดำเนินโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาปี 2561 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยระดับอำเภอมีคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ นายอำเภอเป็นประธานและเกษตรอำเภอเป็นเลขานุการคณะทำงานและให้คณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด (อ.พ.ก.) เป็น คณะกรรมการระดับจังหวัด

นายกฤษฎา กล่าวว่า เป็นโครงการแรกของการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการภาคการเกษตรของไทย ด้วยการวางแผนการผลิตทางการเกษตรของประเทศ จึงประสานไปยังคณะทำงานระดับอำเภอให้เร่งออกประชุมชี้แจงทำความเข้าใจและเชิญชวนชาวนาในพื้นที่ให้ปรับเปลี่ยนจากการทำนาปรังมาปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ตามความเหมาะสมของคุณภาพดิน ทั้งในและนอกเขตชลประทานรวมพื้นที่ 2 ล้านไร่ อีกทั้งมอบหมายสหกรณ์จังหวัดรวมกลุ่มสหกรณ์การเกษตรที่อยู่ในพื้นที่เข้าร่วมโครงการฯ และให้สหกรณ์การเกษตรหรือวิสาหกิจชุมชนชนรวบรวมเกษตรกรรายย่อยที่เป็นสมาชิกมาเพาะปลูกในระบบเกษตรแปลงใหญ่ กำชับให้เกษตรอำเภอนำเรื่องการเชิญชวนปลูกพืชอื่น ๆ แทนการทำนาปรังเข้าประชุมชี้แจงที่ประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านภายในเดือนตุลาคมนี้ จากนั้นให้เกษตรจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่และตัวแทนภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการส่งคณะวิทยากรจัดการอบรมให้ความรู้ในการปลูกข้าวโพด การลดต้นทุน และการรักษาแปลงให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ


ด้านการตลาดนั้น โครงการนี้รับซื้อผลผลิตทุกเมล็ด โดยมีคณะอำนวยการของกระทรวงเกษตรฯ ประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งภาคเอกชนเพื่อเข้าไปทำสัญญารับซื้อข้าวโพดล่วงหน้ากับเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรอย่างเป็นธรรม ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. 2560 ซึ่งจะต้องระบุข้อตกลงในรายละเอียดการทำสัญญารับซื้อให้ชัดเจนทั้งราคารับซื้อ จุดรับซื้อ จำนวนและคุณภาพข้าวโพดที่จะรับซื้อรวมทั้งเงื่อนไขต่าง ๆ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นภาคหรือกลุ่มจังหวัดแล้วให้เอกชนแต่ละรายเข้าไปทำสัญญารับซื้อ แสดงให้เห็นว่ากระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้เอื้อแก่เอกชนรายใดรายหนึ่งให้ผูกขาดหรือเอาเปรียบเกษตรกร

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เกษตรกรต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับราคาและเงื่อนไขการรับซื้อผลผลิต รวมทั้งปริมาณความต้องการผลผลิตของตลาดก่อนตัดสินใจลงมือเพาะปลูก ดังนั้น หากภายในเดือนตุลาคมนี้พื้นที่ใดยังไม่มีภาคเอกชนเข้าไปทำสัญญารับซื้อข้าวโพดตามหลักการที่กำหนดไว้ให้ยกเลิกโครงการในพื้นที่นั้น ๆ เพราะกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีนโยบายให้เกษตรกรทำการเกษตรหรือประกอบอาชีพแบบสุ่มเสี่ยงอีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน อุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศร้อนตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศเย็นกับมีหมอกตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และยอดภูอากาศหนาว

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก