กรุงเทพฯ 1 ต.ค.-วันนี้ (1 ต.ค.) เป็นวันแรกที่ห้ามรถตู้โดยสารสาธารณะอายุเกิน 10 ปี วิ่งให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่าผู้โดยสารต้องรอรถนานขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย โดยกรมการขนส่งทางบกได้ตั้งวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์ และล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา รองปลัดกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์เพิ่มเติม
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อตรวจการให้บริการรถตู้สาธารณะบริเวณรอบเกาะต่างๆ ซึ่งเป็นจุดจอดรถตู้ในช่วงเย็น ซึ่งเป็นเวลาเร่งด่วนของการเดินทาง และวันนี้เป็นวันแรกที่รถตู้ซึ่งมีอายุครบเกิน 10 ปี ไม่สามารถวิ่งให้บริการได้
นายพีระพล ยืนยันว่า ตลอดวันนี้ภาพรวมการให้บริการของรถตู้โดยสารถือว่าเรียบร้อยดี และผู้ประกอบการให้ความร่วมมือจัดรถเพิ่ม และเพิ่มความถี่ของรถตู้โดยสารหมุนเวียนมาให้บริการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถตู้ขาดระยะ รวมทั้งมีการเตรียมรถเมล์ ขสมก.มาวิ่งเสริม เพื่อชดเชยหากมีวินใดที่รถตู้ไม่เพียงพอ ทำให้ภาพรวมสถานการณ์การให้บริการของรถตู้โดยสารในวันนี้ถือว่าเป็นไปได้ความเรียบร้อย
ขณะเดียวกัน ตลอดทั้งวันยังไม่ได้รับรายงานว่า มีการนำรถตู้ที่หมดอายุครบ 10 ปีออกมาวิ่งให้บริการ โดยกรมการขนส่งทางบกกำชับเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่คอยติดตามและตรวจสอบตามวินรถตู้ทุกแห่ง หากมีการละเมิดกฎหมาย ก็ให้จับกุมดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด ซึ่งกรมการขนส่งทางบกยืนยันว่า การควบคุมอายุรถตู้โดยสาร 10 ปีนั้น เป็นไปตามหลักการเพื่อดูแลความปลอดภัย ทั้งในแง่ของการประกันภัย ที่บริษัทประกันภัยจะไม่คุ้มครองรถตู้ที่มีอายุการใช้งานเกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมถึงปัญหาสภาพตัวรถ
ทั้งนี้ จากข้อมูลในช่วงเช้าพบว่า มีหลายเส้นทางที่ประชาชนได้รับผลกระทบเรื่องปริมาณรถตู้ที่ลดลง โดยเฉพาะเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีรถต้องหยุดวิ่งใน 11 เส้นทาง รวม 260 คัน รวมถึงเส้นทางมีนบุรีมีรถหยุดวิ่งใน 7 เส้นทาง รวม 191 คัน.-สำนักข่าวไทย