ธ.ก.ส.28 ก.ย.-ธ.ก.ส.ชี้แจงกรณีอดีตพนักงานถูกเลิกจ้าง
ไม่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลจำนำข้าวตามที่มีกระแสข่าว
แต่เกิดจากพฤติกรรมส่วนตัวของอดีตพนักงานเอง ยืนยันการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่
ธ.ก.ส.รับผิดชอบ ไม่พบเหตุผิดปกติในทางทุจริต
หรือเกิดความเสียหายด้านงบประมาณสูงกว่าความเป็นจริง
นางนพวันต์
พานิชยิ่ง ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า
ตามที่มีข่าวน.ส.ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ อดีตพนักงานธ.ก.ส.
ถูกเลิกจ้างด้วยเหตุเปิดเผยข้อมูลจำนำข้าวนั้น
ธนาคารขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่ากรณีที่เลิกจ้าง น.ส.ชญาดานั้น
มิใช่เหตุจากการเปิดเผยข้อมูลจำนำข้าวแต่อย่างใด แต่เกิดจากมีพฤติกรรมจงใจ
ฝ่าฝืนข้อห้ามหรือคำสั่งของธนาคารอันชอบด้วยกฎหมาย
เป็นการกระทำผิดซ้ำพฤติกรรมที่ถูกลงโทษภาคทัณฑ์และธนาคารได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว
โดยเขียนข้อความในลักษณะที่ไม่เหมาะสมด้วยการตำหนิ ดูหมิ่น ผู้บังคับบัญชาพนักงานผู้อื่นและธนาคาร
และนำเอกสารข้อมูลของธนาคารที่ไม่ควรเผยแพร่
ข้อมูลที่ใช้สื่อสารภายในธนาคารโดยเฉพาะ
หรือข้อมูลอื่นใดที่จะก่อให้เกิดข้อสงสัยหรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับธนาคารเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้มีบุคคลอื่นมาแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่ทำให้ธนาคารเสื่อมเสียชื่อเสียง
นอกจากนี้ยังพบว่า
มีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา
ละทิ้งงานในหน้าที่ และไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
จึงเป็นเหตุอันสมควรที่ไม่อาจไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ทั้งนี้
ผู้ถูกเลิกจ้าง หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีสิทธิยื่นอุทธรณ์
ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งธนาคารที่ 11404/2561 เรื่อง การเลิกจ้างพนักงาน ตามที่
น.ส.ชญาดา นำเผยแพร่ อนึ่ง ธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาข้อความหรือถ้อยคำ ที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีลักษณะเป็นการดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทธนาคาร หรือผู้บริหารของธนาคาร
เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
2.
กรณีความผิดปกติการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามที่สื่ออ้างนั้น ผู้ที่ให้ข้อมูลดังกล่าว
เป็นหนึ่งในทีมงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจำนำข้าวของธนาคารตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
ซึ่งเมื่อตรวจพบข้อมูลที่บันทึกไม่ถูกต้อง
ธนาคารได้มีกระบวนการสอบทานและแก้ไขให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงตามแต่ละกรณีเรียบร้อยแล้ว
การดำเนินงานดังกล่าว
รัฐบาลได้ตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์การคลังสินค้า
(อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร
กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และ ธ.ก.ส. และมีการปิดบัญชีทุกปี
โดยใช้ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน ทั้งนี้ ในปี 2557
มีผู้แทนสภาวิชาชีพบัญชีร่วมเป็นอนุกรรมการด้วย ซึ่งขั้นตอนการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ
ได้มีการนำมาตรฐานทางบัญชีมากำหนดกรอบแนวทางการปิดบัญชี หากมีเหตุสงสัยกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้อง
ต้องมีการโต้แย้งคัดค้านในคณะกรรมการปิดบัญชีฯ
นอกจากนี้ในส่วนของงบการเงินและรายละเอียดประกอบต่าง ๆ ของ ธ.ก.ส.
ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) การดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในส่วนที่
ธ.ก.ส.รับผิดชอบ ไม่พบเหตุผิดปกติ ต้องสงสัย ส่อไปในทางทุจริต
หรือก่อให้เกิดความเสียหายด้านงบประมาณที่สูงกว่าความเป็นจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ การเผยแพร่และแสดงความเห็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
หากผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ยังคงนำไปเผยแพร่ในทางที่เสียหายต่อธนาคารและผู้เกี่ยวข้อง
โดยมิได้รับทราบหรือตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริงอย่างรอบด้านและเป็นธรรม แต่เป็นการกล่าวอ้างและให้ข้อมูลที่เป็นการสร้างความเข้าใจผิดต่อสังคม
ธ.ก.ส.จะดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญาแก่ผู้กระทำการดังกล่าวต่อไป-สำนักข่าวไทย