สีลม 28 ก.ย.-7หน่วยงานจัดกิจกรรมรณรงค์วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก เผยสถิติผู้เสียชีวิตปีนี้รุนแรงกว่าปีอื่น พบ 16 ราย ร้อยละ 90 ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน ย้ำโรคพิษสุนัขบ้าเป็นปัญหาร่วมกันของคนทั้งประเทศต้องแก้ไขอย่างมีระบบ
สถานเสาวภา สภากาชาดไทย และภาคีเครือข่าย ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก(World rabies day)ไฮไลท์ของงานอยู่ที่ การเดินรณรงค์ ให้ประชาชนตระหนักถึงภัยอันตราย และเน้นการแก้ปัญหาร่วมกันของคนทั้งประเทศเพื่อจัดการควบคุมอย่างมีระบบเป้าหมาย คือ ลดจำนวนสัตว์ที่ติดเชื้อและป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิต
ศ.กิตติคุณ นพ.วิศิษฏ์ สิตปรีชา ผู้อำนวยการสถานเสาวภา สภากาชาดไทย กล่าวว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในปี 2561 ถือว่ามีความรุนแรงมากกว่าปีอื่น เพราะตั้งแต่1 มกราคมถึง 10 กันยายน 2561 มีรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว 16 รายจาก 14 จังหวัด สาเหตุเกิดจากสัตว์เลี้ยงหมาแมวที่มีเจ้าของถึงร้อยละ60 ผู้เสียชีวิตทั้งหมดไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามากกว่าร้อยละ 90 โดยเฉพาะข้อสำคัญไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา ยังพบว่าผู้เสียชีวิตกว่าครึ่งถูกสุนัขที่ตนเองเลี้ยง กัด ข่วน และคิดว่าไม่เป็นไรทำให้ไม่ไปหาหมอ
ด้าน พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ประชาชนยังมีความรู้ผิดๆคือร้อยละ 60 คิดว่าโรคพิษสุนัขบ้าสามารถรักษาให้หายได้ ร้อยละ 40 คิดว่าลูกสุนัขจะไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้ไม่ระมัดระวังกับการเลี้ยงดูสุนัขและเมื่อถูกสุนัขกัดหรือข่วนจึงไม่ไปหาหมอ จึงอยากให้ประชาชนร่วมกันตั้งเป้าหมาย ร่วมกันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าใน4 ข้อสำคัญคือ 1.เจ้าของสุนัขแมวต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนครั้งแรกเมื่ออายุ 2-4 เดือนแล้วฉีดซ้ำ ตามกำหนดนัดทุกปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้สัตว์เลี้ยงปลอดโรคพิษสุนัขบ้าร้อยเปอร์เซนต์ 2.ไม่ปล่อยสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้านตามลำพังโดยไม่ใส่สายจูง 3.ช่วยลดจำนวนสุนัขที่ไม่มีเจ้าของไม่มีใครรับผิดชอบโดยการทำหมันถาวร และ 4.ความเสี่ยงถูกสุนัขกัดด้วยคาถา 5 ย. ‘อย่าเหยียบ-อย่าแหย่-อย่าแยก-อย่าหยิบ-อย่ายุ่ง’ .-สำนักข่าวไทย