รฟม.เตรียมเปิดอุโมงค์แยกรัชโยธิน ต.ค.นี้

กรุงเทพฯ  26 ก.ย. – รฟม.เตรียมเปิดอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธินตุลาคมนี้เร็วกว่าแผน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรตามนโยบายของรัฐบาล



นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน และการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้ากรมทหารราบที่ 11 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต


นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม.เร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่มีความสำคัญ ปัจจุบัน (ณ วันที่ 15 กันยายน 2561) การก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธินมีความก้าวหน้ารวมร้อยละ 83.33 ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 1 (บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม็นต์) ได้ดำเนินการขุดดินภายในอุโมงค์ให้ทะลุถึงกันเรียบร้อย พร้อมก่อสร้างพื้นถนน กำแพงป้องกัน รวมถึงเตรียมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ระบบระบายน้ำ ป้ายสัญญาณจราจร เป็นต้น ตลอดจนการตีเส้นจราจร เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับเปิดให้ประชาชนใช้บริการภายในเดือนตุลาคม 2561 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 21 เดือน ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ 3 เดือน ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรที่คับคั่งในแนวถนนพหลโยธินและแนวถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นถนนวงแหวนรอบใน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของประชาชน 

ทั้งนี้ ปัจจุบันงานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกรัชโยธิน มีความก้าวหน้าร้อยละ 74.58 งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกเกษตรศาสตร์มีความก้าวหน้าร้อยละ 79.79 โดย รฟม.จะเร่งรัดงานก่อสร้างทั้ง 2 สะพานให้เสร็จ เพื่อสามารถเปิดใช้งานได้ประมาณเดือนธันวาคม 2561 งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกเสนานิคม มีความก้าวหน้าร้อยละ 56.79 โดยจะเร่งรัดงานก่อสร้างเพื่อเปิดใช้งานประมาณเดือนเมษายน 2562 และงานก่อสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าข้ามทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ บริเวณห้าแยกลาดพร้าว มีความก้าวหน้าร้อยละ 89.18 

สำหรับการก่อสร้างโครงการฯ ปัจจุบันมีความก้าวหน้ารวมร้อยละ 77.21 แบ่งเป็นความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ ร้อยละ 71.50 สัญญาที่ 2 ช่วงสะพานใหม่ – คูคต ร้อยละ 87.04 สัญญาที่ 3 ศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร ร้อยละ 84.59 และ สัญญาที่ 4 งานระบบราง ร้อยละ 74.31 โดย รฟม.ก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งและสถานีรถไฟฟ้าเสร็จทั้งหมด 16 สถานี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานสถาปัตยกรรมและงานระบบไฟฟ้าเครื่องกล โดยมีสถานีกรมทหารราบที่ 11 เป็นสถานีที่มีความคืบหน้ามากที่สุด โดยมีความก้าวหน้ามากกว่าร้อยละ 80 ซึ่ง รฟม.จะได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างฯ ติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ห้องน้ำสาธารณะสำหรับผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป เป็นต้น ให้ครบถ้วนโดยเร็ว เพื่อให้เป็นสถานีต้นแบบสำหรับการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าอื่น ๆ ในโครงการฯ ต่อไป ทั้งนี้ โครงการฯ มีกำหนดก่อสร้างงานโยธาเสร็จภายในปี 2562 และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเสร็จและเปิดให้บริการภายในปี 2563. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.