หนี้ครัวเรือนสูงสุดในรอบ 9 ปี

ราชบพิธ  15 ก.ย. –  หอการค้าไทยเผยผลสำรวจหนี้ครัวเรือนปี 59 เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 สูงสุดในรอบ 9 ปี เป็นหนี้ 298,000 บาทต่อครัวเรือน  หนี้ในระบบร้อยละ 62.3  หนี้นอกระบบร้อยละ 37.7


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย 2559 ว่า สถานภาพหนี้ครัวเรือนไทยปี 2559 สูงสุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2551 โดยมีหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 298,005.81 บาท  เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ถือว่าเป็นอัตราเพิ่มขึ้นที่สูงที่สุดในรอบ 9 ปี ด้านการผ่อนชำระต่อเดือนก็สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 9 ปีเช่นกัน ผ่อนเดือนละกว่า 14,889 บาท โดยเป็นภาระหนี้จากรถคันแรก  ส่งผลให้มีหนี้สินอื่น ๆ ตามมา ภาระหนี้ครัวเรือนไทยมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 83-84 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ  (จีดีพี) ซึ่งสูงอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้ธนาคารพาณิชย์ไม่กล้าที่จะปล่อยสินเชื่อให้ประชาชน  ขณะที่ประชาชนก็ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีปัญหาต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ  บวกกับปัญหาภัยแล้ง

อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ครัวเรือนมีทรัพย์สินหนุนหลัง เช่น บ้าน รถยนต์  ทั้งนี้  ผลจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้มากขึ้น  ส่งผลให้การกู้ยืมเงินของประชาชนนอกระบบปรับตัวลดลง  สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไม่น่าเป็นห่วงเพราะปรับลดลง และคาดว่า 3 ปีข้างหน้า ภาระหนี้ครัวเรือนจะลดลงอยู่ในระดับร้อยละ 80 ของจีดีพี


สำหรับผลงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวรัฐบาลได้คะแนนแก้ไขปัญหา 8 เต็ม 10 เพราะการแก้ไขยังไม่กระจายตัวออกไปในวงกว้าง  สำหรับปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโตในกรอบร้อยละ 3.3-3.5  ถือเป็นผลงานที่โดดเด่นเหนือคาด และมีการทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำหนดให้เศรษฐกิจไทยเติบโตร้อยละต่อ 5 ปี นับเป็นการวางกรอบเศรษฐกิจระยะปานกลาง

ทั้งนี้  รัฐบาลต้องเผชิญโจทย์ยากในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การเบิกจ่ายยังล่าช้า การกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เงิน  100,000-200,000 ล้านบาท จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว ล่าสุดที่ระดับร้อยละ 3.4 นับเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เหนือคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ไทย  อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังมีผลงานที่สามารถแปลงหนี้นอกระบบมาเป็นหนี้ในระบบได้เพิ่มขึ้นจากไมโครไฟแนนซ์ และการที่ประชาชนระมัดระวังไม่ก่อหนี้มากขึ้น  จึงมองว่าอัตราการเพิ่มหนี้ครัวเรือนล่าสุด มีอัตราชะลอตัวลง หากรัฐบาลสามารถทำให้เศรษฐกิจไทยโตร้อยละ 4  ประชาชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นและยังช่วยให้ภาระหนี้ครัวเรือนลดลง

ส่วนกรณีที่จะมีการเสนอปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 360 บาทต่อวันนั้น ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ เห็นว่า สูงไป อย่างไรก็ตาม  ค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศไม่ได้รับการปรับขึ้นมานาน 3 ปี ส่วนค่าแรงในเขตกรุงเทพฯ ไม่ได้รับการปรับขึ้นมาแล้ว 4 ปี  ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นมาตลอด จึงไม่แปลกที่ลูกจ้างขอปรับค่าแรงขึ้นไปอีก โดยการขอเพิ่มค่าแรงจาก 300 บาท เป็น 360  บาทต่อวัน คิดเป็นค่าแรงที่ขอเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 20 ในช่วง 4 ปี หรือเท่ากับขอขึ้นปีละร้อยละ 5 แต่นายจ้างคงไม่พร้อมที่จะจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้นในระดับที่ขอมา  อย่างไรก็ตาม หากจะมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำควรจะปรับขึ้นเฉลี่ยประมาณ 15 บาท โดยการปรับขึ้นควรแตกต่างแต่ละพื้นไม่ควรปรับขึ้นเท่ากัน  ควรเป็นการตกลง 3 ฝ่าย เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี ไม่ควรขึ้นเท่ากันทั่วประเทศ


สำหรับผลการสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทยทั่วประเทศระหว่างวันที่ 1-12 กันยายน 2559 พบว่า ภาคครัวเรือนในภาพรวมร้อยละ 85.7 มีภาระหนี้สิน ส่วนที่ไม่มีหนี้ คิดเป็นร้อยละ 14.3 เท่านั้น  โดยหนี้ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายทั่วไปคิดเป็นร้อยละ 24.1 รองลงมา คือ หนี้ซื้อทรัพย์สินโดยเฉพาะรถยนต์ร้อยละ 19.4 และหนี้จากการลงทุนประกอบอาชีพร้อยละ 16   ภาระหนี้สินโดยรวมต่อครัวเรือนอยู่ที่ 298,005.81 บาท ผ่อนชำระต่อเดือน 14,889.70 บาท โดยเป็นหนี้ในระบบร้อยละ 62.3 ผ่อนเดือนละ 11,278.86 บาท หนี้นอกระบบคิดเป็นร้อยละ 37.7 ผ่อนเดือนละ  10,279.27 บาท  ส่วนลักษณะหนี้ปัจจุบัน พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 59.3 ระบุว่าเป็นหนี้ก้อนเก่า รองลงมาร้อยละ 27.9 ระบุว่าเป็นหนี้เก่าทั้งหมด ขณะที่ร้อยละ 12.8 ระบุว่า เป็นหนี้ก้อนใหม่ทั้งหมด

ส่วนสาเหตุการเป็นหนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนส่วนใหญ่ร้อยละ 18.8 ระบุว่า เป็นหนี้จากการซื้อสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น เช่น บ้าน รถ เป็นต้น รองลงมาร้อยละ  18.2 การผ่อนสินค้ามากไปและมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมาก ร้อยละ 12.8  ทั้งนี้  ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 74.8 ระบุด้วยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเคยประสบปัญหาการขาดการผ่อนชำระหรือผิดนัดชำระ  สาเหตุเพราะมีภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เศรษฐกิจไม่ดี ได้รับเงินค่าจ้างไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดส่งผลให้หมุนเงินไม่ทัน ต้องจ่ายหนี้ที่ถูกทวงถามเป็นอันดับแรก ส่วนผู้ที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 25.2 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]

นายกฯ โพสต์แสดงความยินดี “โอปอล-วิว” สร้างประวัติศาสตร์ไทย

ทำเนียบฯ 1 มิ.ย. – นายกฯ โพสต์แสดงความยินดีกับ “โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎมิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และ “วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์” สร้างประวัติศาสตร์นักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนเเรกขึ้นมือ 1 โลก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์แสดงความยินดีกับคุณโอปอล สุชาตา มิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และคุณวิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทยที่ขึ้นมือ 1 โลกอย่างไม่เป็นทางการค่ะ ทั้ง 2 ข่าวใหญ่ในวันนี้สร้างความภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ ด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่น ของคุณโอปอล และคุณวิว ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้คนไทยทั้งประเทศ ความสำเร็จของทั้ง 2 ท่านในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ เยาวชนและคนไทยค่ะ 🇹🇭❤️#โอปอลสุชาตา #วิวกุลวุฒิ #MissWorldThailand .-314-สำนักข่าวไทย

ซ้อมเสมือนจริง

ผบ.กกล.บูรพา ตรวจความพร้อมรบ เสริมศักยภาพป้องกันชายแดน

สระแก้ว 1 มิ.ย. – ซ้อมเสมือนจริง “ผบ.กกล.บูรพา“ ตรวจความพร้อมรบ เพื่อให้พร้อมรองรับภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายในพื้นที่ชายแดน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 พ.ค.) ที่บ้านหนองสังข์ ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.พล.ร.2 รอ. ในฐานะ ผบ.กกล.บูรพา เป็นประธานตรวจสภาพความพร้อมรบตามระเบียบปฏิบัติประจำของหน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารราบยานเกราะ (ร.12 พัน.2 รอ.) หลังจากที่ได้ดำเนินการ เคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ เข้าสู่ที่รวมพล บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 126 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ปฏิบัติภารกิจของหน่วยเมื่อได้รับมอบจากหน่วยเหนือ โดย ผบ.พล.ร.2รอ./ผบ.กกล.บูรพา ได้เน้นย้ำสั่งการในเรื่องการรักษาระเบียบวินัยของกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ การแสดงภาพลักษณ์ที่ดี แสดงกำลังให้ประชาชนในพื้นที่ เชื่อมั่นในการรักษา ปกป้อง ประเทศชาติ และให้ใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชา ในสายการบังคับบัญชาของตนเอง ในทุกระดับ พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ผสมผสานกับความเป็นผู้นำ และให้เตรียมความพร้อมของกำลังพลที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เมื่อได้รับภารกิจจากหน่วยเหนือ.-313-สำนักข่าวไทย