ประชาธิปัตย์ 21 ก.ย. – อภิสิทธิ์ ยันระเบียบหยั่งเสียงเป็นธรรมไม่มีได้เปรียบเสียเปรียบ เตรียมขอความชัดเจนเรื่องสมัครสมาชิกใหม่จาก กกต. 28 ก.ย.นี้ ติง ประยุทธ์ ออกหนังสือเวียนเร่งพีอาร์ผลงาน หาเสียง ถ่วงปฏิรูปการเมือง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลัง การหารือร่วมกับนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม และนายถาวร เสนเนียมว่า ประเด็นที่สงสัยในเรื่องการลงคะแนนแบบ Electoral Vote ในการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค เป็นเพียงข้อเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งได้มอบหมายให้คนที่มีความเข้าใจไปทำตุ๊กตาเป็นตัวอย่าง แต่ยังไม่มีรายงานว่าจะได้ข้อยุติในรูปแบบไหน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ข้อบังคับพรรคได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 26 กันยายน จากนั้นจะต้องมีการออกระเบียบการหยั่งเสียงตามมา และประมาณการว่ากระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพราะในเดือนธันวาคมคาดว่าจะมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะออกมาเร็วก็ได้ พรรคจึงต้องมีความพร้อมในการจัดเตรียมส่งผู้สมัครด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนเองรับฟังความเห็นของนายแพทย์วรงค์และนายถาวร ไม่ได้มีปัญหา เนื่องจากการออกระเบียบต้องการให้เกิดความเป็นธรรมที่สุด และเป็นคนเสนอว่าคนที่จะดูแลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคจะไม่ได้เป็นผู้ตั้ง แต่ให้ผู้สมัครทุกคนมาตกลงกันเพื่อให้เกิดความสบายใจ และในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีใครลงสมัครบ้าง อาจจะมีมากกว่าที่ปรากฏชื่อในเวลานี้
ส่วนผู้มีสิทธิ์หยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์มองว่า ควรเปิดให้สมาชิก 2.5 ล้านคน ก่อนที่จะมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ให้ยืนยันความเป็นสมาชิกภายในเดือนเมษายน ทำให้เหลือสมาชิกที่มายืนยันตัวตนเพียง 9 หมื่นคนเศษ ขณะที่สมาชิกซึ่งไม่ได้มายืนยันก็ไม่เคยลาออกจากความเป็นสมาชิกแต่ต้องพ้นสภาพไปเพราะคำสั่งหัวหน้า คสช. จึงเห็นว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่มีใจให้กับพรรค น่าจะให้มีส่วนร่วมกับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ทั้งนี้เชื่อว่าการเปิดกว้างน่าจะเป็นธรรมที่สุด เพราะฐานยิ่งกว้างก็จะได้การมีส่วนร่วมและการแข่งขันที่เป็นธรรมชาติ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดูว่าจะรับสมัครสมาชิกใหม่ได้เร็วแค่ไหน ซึ่งอยู่ระหว่างสอบถาม กกต. เกี่ยวกับการรับสมัครผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และหลังจากได้ข้อบังคับพรรคใหม่ ก็อยากเปิดรับสมัครสมาชิกให้เร็วที่สุด จากนั้นก็จะเปิดรับสมัครบุคคลที่สนใจลงสมัครเข้าหยั่งเสียงเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งระเบียบที่ออกมา จะให้อำนาจคนที่เป็นกรรมการดูแลการเลือกตั้งไปดูขั้นตอนปฏิบัติเพิ่มเติม
” ผมไม่มีอะไรที่ต้องไปขัดแย้งกับใคร เพราะสิ่งที่ทำต้องการให้กระบวนการนี้เป็นคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ กับประชาธิปไตย กับประเทศมากที่สุด ไม่อย่างนั้นคงไม่คิดทำเรื่องแบบนี้ แต่เราคิดว่าอยากให้ประชาธิปไตยเกิดขึ้นในพรรค และพรรคเปิดกว้างมากขึ้น นี่คือหัวใจสำคัญ ความเห็นที่แตกต่างมีได้ แต่รับรองว่าไม่มีเรื่องคิดเล็กคิดน้อย เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่มีข่าวว่านายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันที่ 27 กันยายนนี้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เห็นจากข่าว แต่ที่ผ่านมาเคยทาบทามให้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค หากมาจริงก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเจ้าตัวจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ด้วยหรือไม่ แต่ถือว่าเป็นคนที่มีศักยภาพ อย่างไรก็ตามการรับสมัครสมาชิกใหม่ยังมีหลายเรื่องที่ต้องขอความชัดเจนจาก กกต. ซึ่งหวังว่าจะได้ความชัดเจนในวันที่ 28 กันยายนนี้ เช่น การรับสมัครสมาชิกผ่านแอปพลิเคชั่นจะเป็นไปตามระเบียบ กกต.ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะยังอยู่บนสมมติฐานว่าทุกอย่างอยู่บนกระดาษ แต่ก็ไม่มีหลักประกันอะไร
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงเนื้อหาในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2561 ที่ระบุว่า กกต.และคสช. มีอำนาจกำหนดกติกาเกี่ยวกับการเผยแพร่ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และมีคำสั่งยับยั้งได้ว่า ไม่อยากให้การเขียนกฎหมายหรือคำสั่งทำให้ยากต่อการปฏิบัติหรือฝืนธรรมชาติ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าคนออกคำสั่งมีความกังวลอะไร เช่นกรณีโซเชียลมีเดีย หากมีการใส่ร้ายหรือปลุกปั่นยุยง ก็มีกฎหมายอื่นควบคุมอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีหนังสือเวียนถึงหน่วยงานราชการให้ประชาสัมพันธ์ผลงานควบคู่ไปกับการให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะถือเป็นการหาเสียงหรือไม่ ในขณะที่ห้ามพรรคการเมืองหาเสียงนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองจึงใช้สถานะความเป็นรัฐบาล แต่อยากให้คิดว่าที่เราเรียกร้องการปฏิรูปการเมืองมานาน เพื่อต้องการให้เกิดกระบวนการที่เสรีและเป็นธรรม ใครที่ทำให้ไม่เกิดความเสรีและเป็นธรรม ก็จะเป็นตัวถ่วงทำให้การเมืองไม่พัฒนากลับสู่วังวนเดิม ที่ใช้อำนาจรัฐอำนาจเงินและอิทธิพลมาครอบงำการเมือง.-สำนักข่าวไทย