กทม. 19 ก.ย. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชี้แจงขั้นตอนการจ้างงานคนพิการ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการร้องโกงเงินคนพิการ สูญเงินกว่า 1,500 ล้าน คาดรู้ผลใน 15 วัน
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร้องตรวจสอบตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งไม่ตรงกับสิทธิของคนพิการ และการทุจริตการฝึกอบรมให้คนพิการ ซึ่งสร้างความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปีว่า สถานประกอบใดไม่ได้จ้างงานคนพิการต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นเงิน 109,500 บาทต่อคนต่อปี ให้กรมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยไม่ผ่านกระทรวงแรงงาน แต่หากสถานประกอบการไม่ส่งเงินเข้ากองทุนต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวมาส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ เช่น จัดการฝึกอบรม จัดสถานที่ขายของให้คนพิการ ซึ่งต้องเขียนรายละเอียดโครงการ และรายชื่อผู้พิการที่ได้รับการอบรมให้ชัดเจน เพื่อส่งให้กรมการจัดหางานพิจารณา หากพบว่าสิทธิและมูลค่าสิทธิที่ให้คนพิการครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ กรมการจัดหางานจะอนุมัติ และแจ้งกรมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการว่าสถานประกอบการดังกล่าว ได้ส่งเสริมอาชีพให้กับคนพิการกี่คน ชื่ออะไรบ้าง ก่อนบันทึกเข้าระบบ ยืนยันที่ผ่านมามีการลงพื้นที่ตรวจสอบทุกโครงการที่อนุมัติ และไม่พบความผิดปกติ แต่เมื่อมีการร้องเรียนกระทรวงแรงงาน จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในส่วนที่รับผิดชอบอย่างละเอียด คาดมีความคืบหน้าภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ พร้อมคนพิการและผู้ดูแลคนพิการที่ถูกละเมิดสิทธิ์ เดินหน้าร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้รับคดีเจ้าหน้าที่รัฐละเมิดสิทธิและปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อคนพิการ เป็นคดีพิเศษและขอให้มีการดูแลคุ้มครองพยาน ย้ำที่ออกมาเปิดโปงในเรื่องนี้ นอกจากเป็นเพราะถูกละเมิดสิทธิ์แล้ว ยังต้องการให้หน่วยงานอื่นๆ ร่วมตรวจสอบ ส่วนกรณีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ออกมาแถลงข่าวว่าไม่มีการทุจริต มองว่าเป็นการชี้แจงเร็วเกินไป ส่วนตัวมั่นใจแม้จำนวนคนพิการที่มาร้องเรียนจะมีน้อย แต่จากข้อมูลเอกสารนับพันหน้า เชื่อว่าต้องมีการทุจริตเกิดขึ้น .- สำนักข่าวไทย