ขับรถไล่ล่าเซียนวัวหนีคดียิงถล่มบ้านคู่อริ

สงขลา 18 ก.ย.-ระทึก! ตำรวจกองปราบขับรถไล่ล่าเซียนวัวผู้ต้องหาคนสำคัญหนีหมายจับคดีใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้านคู่อริเมื่อปี 57 ขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่-ฝ่าวงล้อม สุดท้ายจนมุม


ตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม และพ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว สารวัตรกองกำกับการ6 กองบังคับการปราบปราม ขับรถยนต์ไล่ล่าและสกัดจับรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้สีบรอนไม่ติดหมายเลขทะเบียน บนถนนบ้านทอนคลอง หมู่2 ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เพื่อจับกุม นายจักรพงษ์ แดงแสละ อายุ38 ปีชาวต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาคนสำคัญตามหมายจับของศาล จ.สงขลา ในคดีพยายามฆ่าและคดีอาวุธปืนรวม4 ข้อหา ซึ่งหลบหนีการจับกุมมา 4 ปี และสามารถควบคุมตัวเอาไว้แม้ว่าจะพยายามขับรถหลบหนีแต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะยางรถล้อหลังด้านขวาแบนเพราะถูกเจ้าหน้าที่ยิงจึงขับต่อไปไม่ได้ และขณะเกิดเหตุยังมีเพื่อนที่นั่งมาในรถอีก 7 คน แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงปล่อยตัวไป


สำหรับเหตุระทึกในครั้งนี้ทางตำรวจกองปราบ กองกำกับการ6 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบทราบว่าในวันนี้ นายจักรพงษ์ ซึ่งเป็นเซียนวัว ได้มาดูการแข่งขันวัวชนที่สนามชนโคบ้านท่าหรั่ง หมู่7 ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จึงมาดักซุ่มรอจนนายจักรพงษ์ ออกจากสนามและขับรถออกมาพร้อมกับเพื่อนอีก7 คนและภรรยาสาว จึงแสดงตัวใช้รถวิทยุของกองปราบและรถยนต์ขวางทางเข้าออก 

แต่นายจักรพงษ์ ได้ขับรถกระบะพุ่งชนเจ้าหน้าที่จนต้องกระโดดหลบ และขับรถฝ่าวงล้อมออกไปได้ ตำรวจกองปราบจึงใช้ปืนยิงล้อหลังด้านขวา เพื่อสกัดแต่ก็ยังขับต่อไปได้ แต่หลังจากขับหลบหนีและเกิดการไล่ล่ากันราว 1 กิโลเมตร รถกระบะของนายจักรพงษ์ เกิดหมุนเคว้งคว้างกลางถนนเพราะยางแบนจึงยอมจำนนและถูกตำรวจจับกุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมกับยอมรับสารภาพ  


สำหรับนายจักรพงษ์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าฯ และข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนรวม 4 ข้อหา จากการก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามอาก้า ยิงถล่มใส่บ้านเลขที่ 30 ม.5 ถนนหลังมัสยิดกลางบ้านดอนขี้เหล็ก ต.พะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ซึ่งเป็นบ้านพักของชายคนหนึ่งที่ไปติดพันกับอดีตภรรยาคนก่อน แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย และแม้จะหนีการจับกุมมาตลอด 4 ปี แต่ก็ไม่รอด โดยเฉพาะในวันนี้ นายจักรพงษ์ เพิ่งชนะการเล่นวัวชนและเตรียมที่จะเดินทางกลับไปฉลองกับเพื่อนๆและภรรยาที่นั่งมาในรถกระบะด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-มีหมอกตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า

ทูตไทยขอบคุณอิสราเอลช่วยปล่อย 5 ตัวประกันชาวไทย

เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล กล่าวขอบคุณรัฐบาลอิสราเอล ในการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย 5 คน กลับบ้าน หลังกลุ่มฮามาสปล่อยตัว พร้อมกับตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คน

5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังฮามาสปล่อยตัว

“พิพัฒน์” เผย 5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังได้รับการปล่อยตัว มอบปลัดแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์กองทุนฯ ต่างประเทศ และประกันสังคม

นายกฯ ยินดีหลังได้รับยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว

“นายกฯ แพทองธาร” ยินดีหลังได้รับการยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว สั่ง รมต.ต่างประเทศ เดินทางไปรับตัวกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการช่วยเหลือ หวังคนไทยที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย