“อัจฉริยะ” นำญาติเหยื่อรุมซัก ตำรวจ สภ.วิภาวดี สลับตัวผู้ต้องหา

กรุงเทพฯ 17 ก.ย.- มารดาของชายอายุ 22 ปี ร้องตรวจสอบตำรวจสุราษฎร์ธานี สลับตัวผู้ต้องหาทำปืนลั่นใส่ลูกชายเสียชีวิต ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร. สั่งตั้งกรรมการสอบสวน และให้พ้นจากการทำหน้าที่พนักงานสอบสวนคดีนี้ ตามที่ผู้เสียหายร้องเรียนทันที

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียก พ.ต.อ.วันชัย  ปะลาวัน ผู้กำกับการ สภ.วิภาวดี จ.สุราษฏร์ธานี ในขณะนั้น และ พ.ต.ท.กำธร  จันทร์ฉาย พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี มาพูดคุยกันต่อหน้านางวันใหม่ ชูพันธ์  มารดานายรัฐพงค์ อินแก้ว อายุ 22 ปี ผู้เสียชีวิต โดยมีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ปรึกษาทางคดี  ร่วมรับฟังการชี้แจงและสอบถามในประเด็นสงสัย

นางวันใหม่ และนายอัจฉริยะ ได้จี้ถามประเด็นสงสัยในการทำคดีของ พ.ต.อ.วันชัย และ พ.ต.ท.กำธร  อาทิ เหตุใดพนักงานสอบสวนไม่นำชี้ที่เกิดเหตุ ไม่ตรวจเขม่าดินปืนบนมือนายอาทิตย์ ไกรนรา  ผู้ต้องหาทำปืนลั่น ไม่สอบแพทย์นิติเวชยืนยันผลชันสูตร และเหตุใดจึงค้นหาปืนของกลางไม่พบ จึงเชื่อว่าพนักงานสอบสวนทำคดีไม่ชอบมาพากล และดำเนินคดีกับผู้ต้องหาผิดคน  ซึ่งมีพยานเล่าว่า คนที่ทำปืนลั่น คือนายวันชัย หรือ ปาล์ม ขวดทอง ไม่ใช่นายอาทิตย์ โดยมีสาเหตุจากการที่บุตรชายถูกกล่าวหาเป็นขโมยแม่พันธุ์ไก่ชนตัวเก่งของญาตินายวันชัย หลังเกิดคดีจึงมีการช่วยเหลือโดยสลับให้นายอาทิตย์ มารับผิดแทนนายวันชัย และเป็นการตั้งใจยิง ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุปืนลั่น ทั้งนี้  ขอให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.วันชัย  และ พ.ต.ท.กำธร ออกจากพื้นที่และให้พ้นการทำหน้าที่สอบสวนคดีนี้ 

ด้าน พ.ต.อ.วันชัย  และ พ.ต.ท.กำธร  ยอมรับไม่ได้ดำเนินการตามที่ผู้เสียหายร้องเรียนจริงในบางกรณี พร้อมยืนยัน มีประจักษ์พยานเห็นนายอาทิตย์ เป็นคนทำปืนลั่นใส่นายรัฐพงค์เสียชีวิต ทั้งนี้ ขณะชี้แจง พ.ต.อ.วันชัย ถูกรุกถามหนัก จนบางช่วงถึงกับมีสีหน้าไม่พอใจ

ภายหลังรับฟังข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย พล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งการให้รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎรธานี ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวน พ.ต.อ.วันชัย และ พ.ต.ท.กำธร พร้อมให้พ้นการทำหน้าที่ในคดีดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งอัยการไปเมื่อ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงหมดอำนาจในการสอบสวน  แต่การสืบสวนยังสามารถดำเนินการต่อไป จึงสั่งให้ไปตรวจสอบตามประเด็นที่ผู้เสียหายข้องใจ และรายงานผลให้ตนรับทราบภายใน 7 วัน  

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ดำเนินคดีกับกลุ่มเพื่อนของนายรัฐพงค์ ผู้เสียชีวิต ทั้ง 10 คน ในความผิดตาม  พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.อุทยาน และ พ.ร.บ.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ.2535 เนื่องจากร่วมกันเข้าไปตีน้ำผึ้งป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งมีการแผ้วถางป่าเพื่อค้างแรมอีกด้วย

สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ 4 พ.ค.2561 ขณะผู้เสียชีวิต และเพื่อนรวม 11  คน เข้าไปหาน้ำผึ้งป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จ.สุราษฎร์ธานี .-สำนักข่าวไทย