กทม.17ก.ย.-‘เอิร์ก เลเดอเรอร์’ เปิดแถลงโต้ปมโกงเงิน ‘เก๋ เลเดอเรอร์’ 14 ล้าน จนอาจเป็นสาเหตุทำให้คิดสั้น ย้ำรักมากไม่เคยทะเลาะกันและคุยกันทุกวัน พร้อมฝากสื่อช่วยหาคนทำร้ายตัวจริง และพร้อมเข้าให้ปากคำกับทางตำรวจ
นายองอาจ หรือเอิร์ก เลเดอเรอร์ นักธุรกิจเจ้าของคลินิกเสริมความงาม คาริสม่าย่านบางนา ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อมวลชน หลังถูกโยงว่าเป็นน้องชายคนสนิทที่อาจโกงเงิน14 ล้านบาทในปมขัดแย้งทางธุรกิจจนทำให้ น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ หรือ เก๋ เลเดอเรอร์ คิดสั้นฆ่าตัวตาย เมื่อ 7 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่ง ‘เก๋’ ได้มีระบุในจดหมายลาตายถึงปมขัดแย้งกับน้องคนสนิท รวมถึงมีการกล่าวอ้างถึงคู่หมั้นหนุ่มชื่อ “พอล”
โดยเอิร์ก เลเดอเรอร์ แถลงข่าวโดยมีบอดี้การ์ดยืนขนาบข้างตลอด พร้อมนำสำเนาหลักฐานการคุยไลน์กับ ‘เก๋’ 2 ฉบับ โฉนดที่ดินในการก่อสร้างบริษัท และหนังสือรับรองสภาพหนี้จำนวน 14 ล้านบาทมามอบให้กับสื่อ
ก่อนเปิดเผยว่า ตนกับเก๋ไม่ได้เป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่แรก ซึ่งเคยบอกแล้วในการออกกับสื่อช่วงแรก โดยในเมืองไทยที่ผ่านมาทำธุรกิจร่วมกัน 2 คน อยู่บ้านหลังเดียวกัน รักกันมาก สู้มาด้วยกันจนมีวันนี้
สำหรับเรื่องเงิน 14 ล้านบาทที่มีข่าวนั้น ไม่เป็นความจริง ขอโต้แย้งและให้สื่อดูจากหลักฐานที่นำมาในวันนี้ ซึ่งเป็นเงินทำธุรกิจและไม่ใช่ติดหนี้ ‘เก๋’แต่เป็นการใช้หนี้แทน ซึ่งเงินทั้งหมดเป็นเงินที่เกิดจากการทำธุรกิจเลเดอร์เรอร์คลินิก ทั้ง 2 สาขา คือรามอินทราและบางนา ในตอนแรกการบริหารการเงินใช้ร่วมกัน กระทั่งสาขารามอินทรามีปัญหาและหุ้นส่วนของสาขาดังกล่าวบอกว่าเงินได้หายไปจากบัญชี 14 ล้านบาท
จากนั้นตนจึงยอมเซ็นรับสภาพหนี้ 3 งวด ชดใช้งวดแรกไปแล้ว 3 ล้านบาท ซึ่งการที่แยกออกมาทำคลินิกที่บางนา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นคาริสม่า) แค่เพียงสาขาเดียวนั้น ไม่ได้ขัดแย้ง แต่เป็นการพูดคุยตกลงกันก่อนหน้านี้กับเก๋ ว่าคงต้องแยกสาขากันอย่างชัดเจนเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการบริหาร ยืนยันไม่มีปัญหาใดๆกับ ‘เก๋ เลเดอเรอร์’ ไม่เคยทะเลาะกันและคุยกันทุกวัน
นอกจากนี้ก่อนหน้านี้ ‘เก๋’ เคยเล่าถึงปัญหากับทางครอบครัวของคู่หมั้นที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วนแทนตน ในสาขารามอินทรา โดยเล่าถึงความกดดันจากครอบครัวจนไม่สามารถทำธุรกิจได้เหมือนเดิม แต่เรื่องนี้ตนไม่อยากฟันธง เนื่องจากจะเป็นการกล่าวหาบุคคลอื่น อยากให้สื่อช่วยหาข้อมูลและตรวจสอบความจริงว่าใครเป็นคนทำร้ายเก๋ด้วยอีกทางหนึ่ง
ส่วนประเด็นที่ไม่ได้ไปร่วมงานศพในวันที่ 3 และ 4 นั้น ยอมรับว่ามีคนข่มขู่แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร ส่วนจดหมายลาตายของเก๋นั้น ยังไม่เห็นฉบับจริงแต่เห็นเป็นภาพนิ่งที่หุ้นส่วนส่งมาทางไลน์ ยืนยันว่าเป็นลายมือของเก๋
สำหรับเรื่องคดี ขณะนี้รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย เรียกเข้าให้ปากคำ ซึ่งก็พร้อมยินดีให้ข้อมูลและมั่นใจในทุกสิ่งที่พูดว่าเป็นความจริง .-สำนักข่าวไทย