กรุงเทพฯ 15 ก.ย.-คาดเงินบาทแข็งค่าต่อสัปดาห์หน้า หลังสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ตลาดเงิน ตลาดทุนจับตาประชุม กนง.19 ก.ย. คงดอกเบี้ยต่อหรือไม่
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงาน สัปาดห์ที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของสกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ดีกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี เงินบาทแข็งค่ากลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ตามสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดันจากข้อมูลเงินเฟ้อ (ทั้งดัชนี PPI และ CPI) ของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าที่คาด ขณะที่ สัญญาณที่เตรียมจะยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของ ECB ก็เป็นปัจจัยลบของดอลลาร์ฯ ด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ (14 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.54 จากระดับ 32.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ก.ย.) นับเป็นระดับแข็งค่าสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
ด้านดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,722.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.94% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 20.63% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 56,126.77 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 442.61 จุด เพิ่มขึ้น 1.52% จากสัปดาห์ก่อน ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวจากความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นการเลือกตั้งภายในประเทศ ประกอบกับตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับเรื่องสงครามการค้า หลังจีนและสหรัฐฯ อาจจะมีการเจรจาด้านการค้ารอบใหม่ นอกจากนี้ ดัชนีฯ ยังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (17-21 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.30-32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดการเงินไทย น่าจะอยู่ที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. วันที่ 19 ก.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ความเคลื่อนไหวของสกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และเฟดสาขานิวยอร์กเดือนก.ย. ยอดขายบ้านมือสอง ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการขออนุญาตก่อสร้าง เดือนส.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนก.ค.
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,710 และ 1,700 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,730 และ 1,750 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมกนง. การเจรจาทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนสถานการณ์ของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนก.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น และดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนก.ย. ของประเทศในแถบยุโรป-สำนักข่าวไทย