แม่ข้องใจ รพ.สต.ไม่ส่งลูก 6 ขวบไป รพ. หลังปวดท้องหนักจนเสียชีวิต

สมุทรปราการ 11 ก.ย. – ความคืบหน้าเด็กหญิงวัย 6 ขวบ เสียชีวิต หลังเข้ารักษาอาการปวดท้อง-อาเจียน ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใน จ.สมุทรปราการ โดยไม่มีการนำส่งโรงพยาบาลใหญ่ กระทั่งแม่ของเด็กตัดสินใจพาขึ้นแท็กซี่ แต่ท้ายสุดไม่ทันกาล ปรากฏว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ล่าสุด สสจ.สมุทรปราการ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเชิงลึกว่า มีการประเมินอาการผู้ป่วยผิดพลาดหรือไม่



เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (11 ก.ย.) นายวีระ อุดมกัน อายุ 43 ปี พ่อของ “น้องน้ำเพชร” อายุ 6 ขวบ ผู้เคราะห์ร้าย เดินทางเข้ารับศพบุตรสาว ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนนำศพขึ้นรถเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ไปยังวัดบางโฉลงใน เพื่อตั้งศพทำพิธีบำเพ็ญกุศล กำหนดสวดเป็นเวลา 3 คืน ซึ่งบรรยากาศที่วัดเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยเฉพาะนางนงเยาว์ แดนเมืองแทน อายุ 42 ปี แม่ของ “น้องน้ำเพชร” ที่ร้องไห้ตลอดเวลาขณะเตรียมงานศพ


ด้าน นพ.นนท์ จินดาเวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางเข้าพูดคุยกับนางนงเยาว์ เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของ “น้องน้ำเพชร” ซึ่งระหว่างพูดคุย นางนงเยาว์ยังคงกอดรูปของบุตรสาวและร้องไห้ตลอดเวลา


สำหรับการเสียชีวิตของ “น้องน้ำเพชร” จากรายงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) หลังจากครูโรงเรียนอนุบาลที่ “น้องน้ำเพชร” เรียนอยู่ นำตัวส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางโฉลง ในเวลา 14.00 น. เพราะ “น้องน้ำเพชร” มีอาการปวดท้องและอาเจียน 2 ครั้ง โดยมีการรักษาตามอาการและให้เกลือแร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามติดต่อแม่ของ “น้องน้ำเพชร” แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงต้องติดต่อผ่านเพื่อนแทน กระทั่งเวลา 16.30 น. แม่ของ “น้องน้ำเพชร” เดินทางไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ตัดสินใจนำตัวลูกสาวส่งโรงพยาบาลบางพลีด้วยรถแท็กซี่ แต่เมื่อไปถึงมือหมอ กลับพบว่าเด็กไม่มีสัญญาณชีพจร แม้พยายามปั๊มหัวใจ 30 นาที แต่ยื้อชีวิตไม่ทัน ทำให้ครอบครัวติดใจสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่มีการนำเด็กส่งโรงพยาบาลด้วยรถฉุกเฉิน ทั้งที่เห็นว่าเด็กมีอาการหนัก

ทั้งนี้ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ ยืนยันจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเชิงลึกว่า เหตุสลดครั้งนี้เกิดจากการประเมินอาการผู้ป่วยผิดพลาดหรือไม่ เนื่องจากรายงานเบื้องต้นพบสาเหตุการเสียชีวิตมาจากลำไส้ติดเชื้อและขาดเกลือแร่ พร้อมตรวจสอบประเด็นต่างๆ ให้ชัดเจน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง