fbpx

มาตรการคืนภาษี VAT ให้กับผู้มีรายได้น้อย

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กระทรวงการคลัง ยืนยันใช้เงินกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ชดเชยการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ได้คืนภาษีให้เสียวินัยการคลัง หลังนักวิชาการทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ทำลายวินัยส่งเสริมการเสียภาษี



ทันทีที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย จับจ่ายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ ข้อมูลรายการภาษีมูลค่าเพิ่มจะถูกส่งตรงไปยังกรมสรรพากร และส่งกลับมายังกรมบัญชีกลาง เพื่อส่งคืนเงินเข้าบัตรสวัสดิการฯ ในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป….นี่คือแนวคิดของกระทรวงการคลังที่เตรียมเสนอ ครม. เพื่อเพิ่มกำลังซื้อฐานราก ด้วยโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 11 ล้านคน 


ขณะนี้ยังรอข้อสรุปว่า รัฐจะเปิดทางให้คืนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 500 บาท/เดือน หรือไม่ โดยหากเพดานคืน คือ 500 บาท/เดือน ก็หมายความว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จะต้องเติมเงินเข้าไปในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และใช้จ่ายผ่านบัตรเริ่มต้นที่ร้านธงฟ้าฯ จำนวน 7,000-8,000 บาท/เดือน จึงจะมีเงินโอนเข้าบัตร 500 บาท ในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยช่วงทดลองจะนำเงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากมาชดเชย ซึ่งเตรียมเสนอนำร่อง 6 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2561 – เมษายน 2562 ใช้เงิน 3,000 ล้านบาท 


ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลัง ย้ำว่าไม่ได้ทำผิดวินัยการคลัง เพราะเป็นการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาบริหาร ต้องเลือกช่วยเหลือเหมือนกัน ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการนำเงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากมาชดเชยการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 

อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเจอกับข้อเสนอแบบดุเด็ดเผ็ดมัน จากอาจารย์นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ ทีดีอาร์ไอ ระบุว่า แผนการคืน VAT หรือคืนภาษีให้กับคนบางกลุ่ม เป็นการทำลายวินัยการเงินการคลัง เพราะสนับสนุนให้คนไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักให้กับประเทศ ต้องรอดูว่า ครม.จะพิจารณาแนวทางการดูแลผู้มีรายได้น้อยในลักษณะใด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย