ทบ.มีแผนย้ายหน่วยทหารออกนอกกทม.

กองทัพบก 7 ก.ย.-ผบ.ทบ.ยอมรับตั้งกรรมการศึกษาเรื่องปรับโครงสร้างกองทัพ ย้ายหน่วยทหารออกนอกกทม. ลดความคับคั่ง ขอกำลังพลอย่ากังวล มีมาตรการรองรับ 


พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกระแสข่าวย้ายหน่วยทหารออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ที่ผ่านมาได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทัพบกเพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติ โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบกเป็นประธาน มีคณะทำงานดำเนินการ  3 เรื่อง คือ 1. การจัดทำโครงสร้างของกองทัพให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในอนาคต หน่วยใดที่มีความจำเป็นน้อยลง จะยุบหน่วยหรือปรับเปลี่ยน และหน่วยใดจำเป็นต้องเพิ่มเติม หรือมียุทโธปกรณ์สมัยใหม่เข้ามาก็พิจารณาดำเนินการ 

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ปัจจุบันมีเครื่องบินไร้คนขับหรือยูเอวี รวมถึงภารกิจที่เกี่ยวข้องกับโดรน แต่ไม่มีหน่วยรับผิดชอบ ก็ต้องไปพิจารณาการปรับโครงสร้างหน่วยเพื่อรับผิดชอบระยะยาว  2. เรื่องกำลังพลของกองทัพบก โดยให้พิจารณาว่าสถานภาพของกำลังพลในปัจจุบันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสอดรับกันหรือไม่ ทำอย่างไรถึงจะลดกำลังพลได้ เพราะขณะนี้ต้องใช้งบประมาณด้านกำลังพลเกือบร้อยละ 50 ของงบประมาณ 3. เรื่องการจัดระเบียบที่ตั้งหน่วยทหารให้สอดคล้องกับภารกิจไว้ในกลุ่มเดียวกัน  และจะย้ายหน่วยบางหน่วยไปภายนอกเพื่อลดความคับคั่งในพื้นที่ ซึ่งการทำงานที่ผ่านมามีหน่วยที่มีรถยานเกราะ รถถังประจำการอยู่ เมื่อจะฝึกต้องขนย้ายออกไปข้างนอกในพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น สระบุรี ซึ่งไม่สะดวก


“ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้น ถือเป็นแผนระยะยาว ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่จะได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการหรือไม่ รวมทั้งงบประมาณที่จะใช้ ซึ่งเราแบ่งการดำเนินการออกเป็นเฟสทั้ง 3 เรื่อง ในส่วนของกองบัญชาการกองทัพบกยังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไร เพราะเป็นที่ดินของกองทัพบกอยู่แล้ว ต้องดูความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ บางพื้นที่อาจจะสร้างที่พัก ปัจจุบันกำลังพลที่มีที่พักอยู่ในกรุงเทพฯ จะมีปัญหา หรือบางที่อาจจะใช้เป็นพื้นที่ที่อยู่กันอย่างแออัด เช่นที่กองบัญชาการกองทัพบกค่อนข้างแน่น อาจจะมีบางหน่วยไปอยู่ข้างนอก หรือหน่วยตรงพื้นที่ใดที่ไม่มีความจำเป็น อาจทำเป็นปอดของกรุงเทพฯ เป็นสวนสาธารณะ คณะกรรมการฯ จะไปหารือกันเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว 

  ส่วนจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของกำลังพลที่ต้องย้ายไปพื้นที่ใหม่หรือไม่ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า เราเป็นข้าราชการ ถ้ากองทัพหรือหน่วยราชการต้องย้ายที่ตั้งหน่วยต้องเป็นไปตามสภาพ แต่ผู้บังคับหน่วยหรือผู้รับผิดชอบจะดูตามเหตุในการบรรเทาความเดือดร้อน จะมีห้วงเวลา มีขั้นตอนของแต่ละเรื่อง ส่วนตัวรับราชการอยู่ลพบุรี  24 ปี ย้ายบ้าน 15 ครั้ง เป็นการย้ายตามตำแหน่ง ซึ่งจะมีบ้านประจำตำแหน่งอยู่แล้ว แต่เมื่อย้ายภูมิลำเนาจะมีกระบวนการเข้ามาดูแล ทั้งการพิจารณาที่ตัวบุคคลว่าควรย้ายไปหรือไม่ เช่น อายุที่มากขึ้น ซึ่งอาจจะให้ย้ายไปอยู่หน่วยฝึกศึกษา ครอบครัวสามารถอยู่ในกรุงเทพฯ ต่อไปได้  ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการออกมารองรับ การที่กองทัพบกของบประมาณสร้างแฟลตที่พักใกล้กองบัญชาการทกองทัพบก เพื่อไม่ให้กำลังพลต้องเดือดร้อนเรื่องการเดินทาง

“เมื่อเราเป็นข้าราชการจะอยู่ติดพื้นที่ไม่ได้ จะคิดว่าจะลงหลักปักฐาน ครอบครัวจะต้องอยู่ตรงนี้คงไม่ได้ เมื่อหน่วยต้องย้าย เราก็ต้องย้าย เราเป็นข้าราชการทหาร ซ้ายก็คือซ้าย ขวาก็คือขวา ปีนี้ต้องไปรับราชการสนาม หน้าที่คุณก็ต้องไป มันไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ แต่ถ้าเกิดความเดือดร้อน ผู้บังคับบัญชาจะดูตามความเหมาะสม อาจขยายเวลาในการไป ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายบุคคล แต่ในภาพรวมต้องเป็นไปตามนั้น มันมีกระบวนการอยู่ อย่าไปบอกว่าย้ายหน่วยแล้วจะเดือดร้อน จิตสำนึกคือเราต้องนึกว่าเราเป็นข้าราชการ ผู้บังคับบัญชามีความเมตตาอยู่แล้วว่าจะช่วยเหลืออย่างไร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผน ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ ถ้าหน่วยได้รับอนุมัติฯ จะมีกรอบเวลาดำเนินการ ทุกคนมีโอกาสได้เตรียมตัว อย่าไปวิตกกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบ มีมาตรการดูแล” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]