fbpx

นบข.เห็นชอบเพิ่มโควตาส่งออกข้าวไปยุโรป 5 พันตันต่อปี

ทำเนียบฯ 3 ก.ย. – นบข.เห็นชอบเพิ่มโควตาส่งออกข้าวอินทรีย์ไปตลาดยุโรป 5 พันตันต่อปี  สั่งหลายหน่วยงานร่วมจัดทำ  Big Data เกี่ยวกับข้าวเพื่อประเมินตลาด การผลิตข้าวให้แม่นยำมากขึ้น หามาตรการช่วยเหลือนาข้าวภาคกลางใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำท่วมไหลบ่าหลายพื้นที่ 



นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน  สั่งการให้หลายหน่วยงานทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิยชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรมอุตุนิยมวิทยา สมาคมโรงสีข้าว สมาคมผู้ส่งออกข้าว  ร่วมจัดทำ Big Data เกี่ยวกับข้าวทั้งหมด เพื่อประเมินตลาดข้าว การประเมินสถานการน้ำ เพื่อให้การพยากรณ์การผลิตข้าวแต่ละปีมีความชัดเจนแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้รัฐบาลส่งสัญญาณเกษตรกรปลูกข้าวในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดและบริโภคแต่ละปี 


นอกจากนี้ ให้สำรวจว่ามีเกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ภัยจากเหตุฉุกเฉิน หรือภัยจากการใช้พื้นที่รองรับน้ำเพื่อเตรียมการรองรับ และยังสั่งหลายหน่วยงานสร้างความเข้าใจกับผู้ประสบปัญหาอุทกภัย หรือผู้เสียสละใช้พื้นที่เป็นแก้มลิงรองรับน้ำไม่ให้ไหลไปยังพื้นที่อื่น ใช้แนวทางเหมือนกับถ้ำหลวงโมเดล โดยเฉพาะลุ่มน้ำภาคกลางที่ต้องรองรับน้ำจำนวนมาก เพื่อหามาตรการเพิ่มช่วยเหลือเกษตรกลุ่มดังกล่าว  เพื่อให้เกษตรกรสบายใจมากขึ้น หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยต้องศึกษาให้เสร็จภายในเดือนกันยายนนี้  

กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์รายงานที่ประชุม นบข. ว่า ณ 28 สิงหาคม 2561 เกษตรกรปลูกข้าว 48 ล้านไร่ จากเป้าหมายทั้งหมด 58 ล้านไร่ ยังเหลือเกษตรกรอีกประมาณ 600,000-700,000 คน กำลังปลูกข้าวช่วงนี้คาดว่าปริมาณปลูกจะใกล้เคียงเป้าหมาย 58 ล้านไร่  หรือ 25 ล้านตันข้าวเปลือก สำหรับการปลูกข้าวนาปี  ในส่วนการปลูกข้าวรอง 2 คณะกรรมการปลูกข้าวครบวงจรตั้งเป้าหมายการปลูกข้าวนาปรัง 12.21 ล้านไร่ หรือ 8 ล้านตัน เริ่มหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวนาปี หรือในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม รวมทั้งหมด 33 ล้านตันต่อปี คาดว่าเหมาะสมกับขีดความสามารถส่งออกและความต้องการบริโภคในประเทศ เพื่อให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพ


นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า นบข.เห็นชอบปรับเพิ่มโควตาส่งออกข้าวเปลือกอินทรีย์และข้าวเปลือกตามมาตรฐาน GAP เพื่อส่งออกไปยังตลาดยุโรป เพิ่มจาก 2,000 ตัน เป็ น 5,000 ตัน เพราะปัจจุบันการปลูกข้าวอินทรีย์และข้าวมาตรฐาน GAP มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของโควตาส่งไปสหภาพยุโรป (อียู) จึงต้องการให้เพิ่มสัดส่วนมากขึ้น  หวังส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวอินทรีย์และข้าวมาตรสากล GAP ทั้งประเทศ 60,000 ตัน จากปี 2560 เพิ่มเป็น 280,000 ตันในปี 2564   

นอกจากนี้ ยังกำชับโครงการชะลอการขายข้าวเปลือกหรือการจำนำยุ้งฉาง เพื่อดึงสหกรณ์การเกษตรที่มียุ้งฉางของตนเองเข้ามาร่วมโครงการมากขึ้น  โดยใช้เงื่อนไขเหมือนเดิมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา  โดยมอบหมายให้ ธ.ก.ส.ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรที่มียุ้งฉางของตนเอง เพื่อให้สหกรณ์มียุ้งฉางของตนเอง เพราะยังมีศักยภาพรองรับ 500,000 ตัน จากทั้งหมด 300 สหกรณ์  ภายใต้กรอบ 2 ล้านตันในโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวจากยุ้งฉาง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME