บุรีรัมย์ 1 ก.ย.-ปู่รับไม่ได้ หลาน 9 ขวบถูกครูลงโทษรุนแรง ใช้ไม้ตีหลัง บิดแขนขาเด็กจนเขียวช้ำ เหตุเขียนหนังสือช้าไม่ทันเพื่อน ตำรวจเตรียมเชิญครูสาวมาสอบปากคำ หลังผู้ปกครองนักเรียนแจ้งความเอาผิดครู
ความคืบหน้ากรณีที่นางสุชาดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พาหลานชายวัย 9 ขวบ ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ให้เอาผิดกับครูผู้หญิงที่สอนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ โดยกล่าวหาว่าครูคนดังกล่าวลงโทษเด็กนักเรียนรุนแรงเกินไป โดยใช้ไม้ตีที่บริเวณหลัง ใช้กำปั้นทุบหลัง และใช้มือบิดตามแขน ขาและลำตัวของเด็กจนเป็นรอยเขียวช้ำ สาเหตุแค่เพียงเพราะเด็กเขียนหนังสือในห้องเรียนช้า ไม่ทันเพื่อน จนเด็กเกิดความหวาดผวา ไม่กล้าไปโรงเรียน
ล่าสุด ร.ต.ท.นิยม ท่วมไสง พนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้เชิญยายและแม่ของเด็กนักเรียนคนดังกล่าว มาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดี และเตรียมเรียกครูที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำด้วยเช่นกัน ส่วน ด.ช.9 ขวบที่ผู้ปกครองแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกครูตีรุนแรงนั้น ต้องรอประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดนางรองตามขั้นตอน รวมทั้งต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในสำนวนด้วย
จากการสอบปากคำยายของเด็กนักเรียน ยืนยันว่า หลานของตนถูกครูใช้ไม้ตีที่บริเวณหลัง และใช้มือบิดแขน ขา ตั้งแต่วันจันทร์ วันอังคาร และวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สาเหตุแค่เด็กเขียนหนังสือไม่ทันเพื่อนคนอื่นๆ เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการลงโทษที่เกินกว่าเหตุ
ด้านปู่ของ ด.ช. 9 ขวบ กล่าวว่า หลังจากเห็นร่องรอยตามตัวของหลานที่เกิดจากการถูกครูลงโทษ ก็รู้สึกรับไม่ได้ เพราะถือเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ หากจะลงโทษควรจะให้เหมาะสม เพราะหลานยังเด็กอยู่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากให้ทางโรงเรียนหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก ส่วนครูเองก็ควรจะปรับปรุงวิธีการทำโทษเด็กให้เหมาะสมด้วย เพราะปัจจุบันก็มีกฎหมายห้ามตีเด็กนักเรียน
ปู่ของเด็ก ยังระบุด้วยว่า หลังจากที่มีการแจ้งความ ครูที่ถูกกล่าวหาก็ได้มาขอโทษทางครอบครัว โดยอ้างว่าไม่ได้เจตนาจะลงโทษเด็กรุนแรง แต่พลั้งมือเพราะต้องการให้เด็กเรียนเก่ง เขียนหนังสือให้ทันเพื่อนเท่านั้น ทั้งขอร้องให้ทางครอบครัวถอนแจ้งความด้วย.-สำนักข่าวไทย