ออกหมายจับ 2 ผัวเมียตุ๋นเหยื่อหลายจังหวัด

อุบลราชธานี 31 ส.ค.-ออกหมายจับ 18 มงกุฎ สามี-ภรรยา ตระเวนหลอกเหยื่อทั่วประเทศ ฝ่ายชายอ้างเป็นผู้การ ปส. เหยื่อหลงเชื่อสูญทรัพย์สินรวมหลายล้านบาท ตำรวจวอนประชาชนรู้เบาะแสให้ข้อมูลเพิ่มเติม


จากกรณี18 มงกุฎ 2 สามี-ภรรยา ที่ตระเวนหลอกเหยื่อไปทั่วประเทศ โดยอ้างเป็นผู้การ ปส.ลูกน้องนักการเมืองพรรคใหญ่  รู้จักคนใหญ่คนโตในบ้านเมือง ทำให้เหยื่อหลงเชื่อสูญทั้งโทรศัพท์ราคาแพง สร้อยทองรูปพรรณ และพระเครื่องมีราคาไปกว่า 1 ล้านบาทนั้น 


ล่าสุดมีผู้เสียหายจากทั่วประเทศนับ 10 ราย ส่งข้อมูลความเสียหายในกลุ่มไลน์ มิจฉาชีพ 2018 เพื่อติดตามตัวคนร้ายทั้ง 2 คน มาดำเนินการตามกฎหมาย หนึ่งในข้อมูลสำคัญแสดงตัวบุคคลเป็นคลิปการมีปากเสียงกันระหว่าง หญิงสาวซึ่งผู้เสียหายระบุเป็น น.ส.เพ็ญนภา ภู่พันธ์ อายุ 31 ปี เป็นคนร้ายที่ออกต้มตุ๋นกำลังทะเลาะกับหญิงวัยกลางคน(มารดา)โดยคลิปมีความยาวประมาณ 2.22 นาที โดยฝ่ายหญิงสาวใช้ถ้อยคำที่หยาบคายต่อหญิงวัยกลางคนที่ระบุเป็นมารดา เนื้อหาจับใจความได้เกี่ยวกับการนำรถยนต์ออกไปจากบ้านพักแต่หญิงวัยกลางคน ห้ามไม่ให้นำออกไปจนมีการยื้อกระชากกันโดยมีคนในบ้านเป็นผู้ถ่ายคลิปไว้ก่อนจะนำมาลงในโลกโซเชียลจนเป็นที่วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม 

ล่าสุด พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากสืบสวนสอบสวนแบบบูรณาการของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี จนทำให้มีพยานหลักฐานชี้ชัดว่า คนร้าย 2 คนที่ก่อเหตุได้กระทำความผิดตามผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ น.ส.เพ็ญนภา ภู่พันธ์ อายุ 31 ปีตามหมายจับเลขที่ 279/61ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น และกระทำผิดฐานอั้งยี่ และออกหมายจับชายไม่ทราบชื่อ ตามภาพถ่ายเลขที่ 280/61 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น และกระทำผิดฐานอั้งยี่เช่นกัน 


พ.ต.ท.ปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า คดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้ความสนใจ กำชับให้ตามตามตัวคนร้ายมาดำเนินการให้ได้ ประกอบกับแผนประทุษกรรมคนร้ายที่ทางชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบพบว่าคนร้ายก่อเหตุในหลายพื้นที่เกือบทุกภาค มีผู้เสียหายนับ 10 ราย ที่ปรากฏในขณะนี้มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นหลายล้านบาท สำหรับคนร้ายที่เป็นชายอายุประมาณ 50 ปี ที่ถูกออกหมายจับตามรูปภาพนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากจะวอนขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ที่รู้จักหรือมีฐานข้อมูลชายในภาพข้อให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดสืบสวนอย่างต่อเนื่องเพื่อจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นเสี่ยงร่วมกระทำผิด

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง