ทำเนียบฯ 27 ส.ค. – ครม.เห็นชอบส่งเงินเข้า “กระเป๋าเงินสด” 100-200 บาทต่อเดือน ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ เปิดทางเบิกเงินผ่านตู้ ATM ธ.กรุงไทย เบื้องต้นจ่าย 4 เดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ วงเงิน 2,800 ล้านบาท เตรียมให้รายย่อยใช้เน็ตความเร็วสูงติดตามข้อมูลเกษตรหรือข้อมูลจำเป็นผ่านออนไลน์
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแนวทางจัดสรรเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการเฟส 2 เพื่อพัฒนาฝึกอบรมอาชีพหลังลงทะเบียนกับหมอประชารัฐ ด้วยการส่งเงินอุดหนุนเพิ่ม 100 หรือ 200 บาทต่อเดือนผ่านบัตรสวัสดิการ โดยเพิ่มช่องทางการใช้เงินด้วยการเปิดทางให้เบิกเป็นเงินสด เพื่อนำไปใช้จ่ายที่จำเป็นกับร้านทั่วไปด้วยการกดเงินสดกับตู้เอทีเอ็มกรุงไทย เพื่อส่งเสริมให้รายย่อยคุ้นชินกับการใช้เงินผ่านกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ผ่านบัตรสวัสดิการ ซึ่งเป็นช่องทางการใช้เงินในบัตรมีอยู่ 2 ช่องทาง
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า การใช้เงินผ่านบัตรสวัสดิการ แบ่งออกเป็น 2 ช่องทาง คือ การเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการเพื่อใช้ซื้อสินค้าผ่านเครื่อง EDC ของร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าทั่วไปที่โหลดแอพพลิเคชั่นของธนาคารกรุงไทย “ถุงเงินประชารัฐ” ที่ติดสัญลักษณ์ PromptCard แนวทางดังกล่าวหากใช้เงินไม่หมดในสิ้นเดือนจะตัดวงเงินการใช้บัตร วันนี้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้เพิ่มช่องทางการใช้เงินอีกช่องทางหนึ่ง คือ บัตรสวัสดิการได้จัดทำ “กระเป๋าเงินสด” เพื่อใช้เงินซื้อสินค้าหรือถอนเงินออกเป็นเงินสดได้
โดยวงเงินที่เติมครั้งนี้จะไม่ถูกตัดทุกช่วงสิ้นเดือนและยังเปิดทางให้ผู้มีรายได้น้อยเติมเงินเข้าไปในบัตรเพิ่มอีก โดยชาวบ้านต้องนำบัตรสวัสดิการไปทำการเปลี่ยนระหัส Pin ตัวเลข 6 หลัก สำหรับกดเงินผ่านตู้ ATM เพราะขั้นแรกกำหนดไว้เป็นบัตรประชาชน ยอมรับว่าขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสทำได้ขั้นตอนไม่ยุ่งยากซับซ้อน ช่วงแรกรัฐบาลจ่ายเงินเติมในกระเป๋าเงิน 100-200 บาท เป็นเวลา 4 เดือน จากช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคมนี้ 700 ล้านบาทต่อเดือน รวมวงเงินทั้งหมด 2,800 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายเข้าข่ายได้รับเงิน 3.9 ล้านคน ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ 50 และ 100 บาท มี 3.6 ล้านคน เป็นเงิน 335 ล้านบาทต่อเดือน
หลังจากที่ผ่านมาผู้มีรายได้น้อย 11.4 ล้านคน สำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินอุดหนุนผ่านบัตร 300 บาทต่อเดือน ส่วนผู้รายได้ 30,000-100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินอุดหนุน 200 บาทต่อเดือน และยังนำบัตรไปใช้บริการสาธารณะทั้งรถเมล์ รถไฟ บขส. การใช้เงินเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา เพื่อการเกษตร ผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ
สำหรับโครงการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อย ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยกระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้ให้บริการค่ายโทรศัพท์มือถือร่วมดำเนินการ เพื่อสนับสนุนผู้ถือบัตรสวัสดิการทั้ง 11.4 ล้านคน เข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึง ทั้งด้านสภาพอากาศ ข้อมูลราคาสินค้า กลุ่มผู้ลงทะเบียนมีเกษตรกร 4 ล้านคน ผู้สูงอายุ 3.6 ล้านคน และกลุ่มอาชีพอิสระอื่น ยอมรับว่าแต่ละกลุ่มต้องการเข้าถึงข้อมูลแตกต่างกัน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเร็ว ๆ นี้. – สำนักข่าวไทย