เร่งล่า 2 ผัวเมีย อุ้มสุนัข ตระเวนลักทรัพย์

กทม.27 ส.ค.- ตำรวจภูธรภาค 1 เร่งล่า 2 สามีภรรยา ผู้ต้องหาในคดี แก๊งอุ้มสุนัข ตระเวนลักทรัพย์  ตามร้านค้า ร้านอาหาร  


พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวน เร่งรัดติดตามตัว  นายอภิชาติ บุญเรือง  กับ นางสาวอุษา เกษมมณี หรือ นางฑิญาตา   บุญเรือง 2 สามีภรรยา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาร่วมลักทรัพย์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคกลาง  โดยมีผู้เสียหายที่มาแสดงตัว แล้วรวม  44 คน  

สำหรับพฤติกรรม  2 ผู้ต้องหา จะใช้วิธีการอุ้มสุนัข หรือ อุ้มเด็ก เข้าไปทำทีตีสนิทกับผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ในพื้นที่กรุงเทพฯ  ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก มาตั้งแต่ปี 2546 จากนั้นจะสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก เมื่อเจ้าของร้านต้องวุ่นวายกับเตรียมสินค้า ประกอบกับมี เด็ก และ สุนัข ที่ผู้ต้องหา พามาไปดึงดูดความสนใจ คนร้ายจะฉวยโอกาสเข้าลักเอาทรัพย์สิน และ เงินสด หลบหนีไป  สอบประวัติย้อนหลัง พบมีหมายจับคดีลักทรัพย์ รวมกันกว่า 10 หมายจับ   มีเจ้าทุกข์บางคนเสียทรัพย์สินมูลค่ากว่า  4  แสนบาท ในการก่อเหตุเพียงครั้งเดียว และมีบางคนถูกก่อเหตุถึง 2 ครั้ง ใน 2 ปี


ต่อมาตำรวจ ได้นำหมายค้นจากศาล เข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหา ย่านปากเก็ด จังหวัดนนทบุรี พบอาวุธปืน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 55 เครื่อง นาฬิกา  กระเป๋าแบรนด์เนม ทองรูปพรรณ พระเครื่อง รวม 153 รายการ 

พลตำรวจโทสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1  เชื่อว่ามีเจ้าทุกข์ตกเป็นเหยื่อมากกว่า 44 ราย แต่ติดขัดในขั้นตอนการแจ้งความ โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีการรายงานเหตุลักทรัพย์ต่อเนื่องกัน  ซึ่งเมื่อปรากฏเช่นนี้ จึงได้สั่งการให้ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมขอให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เข้ามอบตัว   เพราะถ้าเข้าไปรับโทษในเรือนจำเร็ว เวลาชีวิตหลังพ้นโทษก็จะมีมากขึ้น   และหากผู้เสียหายรายใด  ยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี กับผู้ต้องหา ทั้ง 2  สามารถเข้าให้ข้อมูล ได้ที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1  ซึ่งจะเป็นหน่วยงาน ประสาน กับท้องที่เกิดเหตุ ให้

ขณะที่มีผู้เสียหายส่วนหนึ่ง เดินทางมาดูของกลางที่ค้นพบในบ้านพักของ 2 คนร้าย พร้อมเสนอข้อแนะนำต่อ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ให้ตำรวจปรับปรุงการทำงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการรับแจ้งความ การสืบสวน และการตอบคำถามเมื่อเจ้าทุกข์   สอบถามความคืบหน้าของคดี  ซึ่งพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ   พร้อมรับข้อเสนอเพื่อนำไปปรับปรุงการปฏิบัติหน้าที่–สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย