นนทบุรี 27 ส.ค. – ผลประชุมคณะส่งเสริมการค้าฯ ไทย-จีนครั้งแรก จีนยอมลดขั้นตอนและอุปสรรคทางการค้าให้กับไทยถึง 8 ข้อเป็นข่าวดี พร้อมมั่นใจมูลค่าการค้าปี 64 เพิ่มขึ้นเท่าตัวได้แน่
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (เจซี ไทย-จีน) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐของจีน เป็นประธาน ได้ตกลงจะเพิ่มเป้าหมายการค้าของ 2 ประเทศ เป็น 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 จากเดิมตั้งไว้ 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 และยังได้ลงนามเอ็มโอยูระหว่างนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยและนางเกา เยี่ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ที่จะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อส่งเสริมการค้าอย่างไร้อุปสรรค (Working group on Unimpeded Trade) และไทยยังเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะทำงานฯครั้งแรกในระดับอธิบดีกรมเจรจาฯ ทั้ง 2 ประเทศ เพื่อหารือและกำหนดแนวทางขยายการค้าให้บรรลุตามเป้าหมาย 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย
สำหรับหารือ 8 ข้อขยายการค้า-ลดอุปสรรค ประกอบด้วย 1.การขยายความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตร เช่น ผักผลไม้ อาหารฮาลาล สินค้าประมง เพื่ออำนวยความสะดวกสินค้าเกษตรไทยเข้าสู่ตลาดใหม่ในจีน เช่น เฉิงตู ฉงชิง ซีอาน ซินเจียง ชิงต่าว รวมถึงมลฑลและเมืองรองของจีนด้วย เพิ่มจากตลาดหลักปัจจุบันที่ส่งไปเซี่ยงไฮ้ คุนหมิง และกว่างโจว 2.อำนวยความสะดวกด้านข้อมูลการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย ได้ขอให้จีนอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลการค้า เช่น การจัดทำข้อมูล และกฎระเบียบทางการค้าของจีนเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษเพิ่มจากภาษีจีน เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น 3.การพิจารณายกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) กับสินค้าไทย เช่นเดียวกับที่จีนปฏิบัติกับประเทศที่มีพรมแดนติดกัน โดยเฉพาะอาจใช้เวทีแม่โขงล้านช้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมเป็นกลไกหารือดำเนินการ
4.การส่งเสริมให้เอกชนไทยและจีนเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และกิจกรรมส่งเสริมการค้า โดยจีนได้เชิญให้ไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้านำเข้า China international import expo จัดที่เซี่ยงไฮ้ปลายปีนี้ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านำเข้าครั้งใหญ่ตามดำรินายสีจิ้นผิง ที่ต้องการเพิ่มการนำเข้า คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าจาก 130 ประเทศ 2,800 บริษัท ผู้เข้าร่วมงานกว่า 150,000 คน เพื่อให้ชาวจีนรู้จักสินค้าคุณภาพของไทยให้มากขึ้น 5.การแก้ไขอุปสรรคทางการค้า เช่น เร่งรัดให้จีนมาตรวจโรงงานข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ไทยได้ยื่นขอให้ตรวจสอบ และยังเหลือประมาณ 54 ราย จากที่จีนตรวจขึ้นทะเบียนให้ไทยแล้ว 49 โรงงาน เพื่อให้โรงสีข้าวไทยที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนและผ่านการตรวจสอบ มีโอกาสส่งออกไปจีนได้ด้วย
6.ให้จีนอนุญาตนำเข้ารังนกแดงจากไทย ซึ่งกรมปศุสัตว์ของไทยทำการตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยต่อการบริโภค 7.ให้ทั้ง 2 ฝ่ายหาแนวทางป้องกัน ไม่ให้มีการนำชื่อสามัญไปจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ชื่อ “หมอนทอง” ซึ่งเป็นชื่อสามัญ ขอให้จีนไม่รับจดเป็นเครื่องหมายการค้า เพื่อปฏิบัติตามหลักการสากลของการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และ 8.ขอให้จีนเร่งรัดพิจารณาขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย 3 รายการ คือ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง มะขามหวานเพชรบูรณ์ และข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย