สพฐ.เล็งคาดโทษ ผอ.โรงเรียน หากเกิดความรุนแรงของครู-นร.


18 ก.ย. – สพฐ.เตรียมมอบเป็นนโยบายให้ผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่ง หากเกิดความรุนแรงระหว่างครูและนักเรียน ผู้บริหารต้องรับผิดชอบก่อน ป้องกันผู้ปกครองไม่ไว้ใจโรงเรียน


นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทยถึงกรณีเกิดเหตุความรุนแรง ที่ครูประพฤติปฏิบัติกับเด็กเกินกว่าเหตุ เช่น ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ตบบ้องหูเด็กพิเศษ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกรณีครูพลศึกษาปาแก้วใส่นักเรียน ม.5 ส่งผลให้ใบหน้าบิดเบี้ยว จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการกระทำของครู ยืนยันทุกครั้งที่เกิดปัญหาครูลงโทษนักเรียนด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม ตนเองได้กำชับให้ครู และผู้บริหารคำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นครูมาตลอด โดยเฉพาะปัญหาการลงโทษนักเรียนรุนแรง ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ย้ำในฐานะที่เป็นครู จำเป็นต้องนึกถึงสถานะและจรรยาบรรณของการเป็นครูด้วย โดยสัปดาห์หน้า จะสั่งการเป็นนโยบายไปถึงผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่งหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ผู้บริหารต้องรับผิดชอบก่อน โดยเฉพาะเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างครูกับนักเรียน รวมถึงต้องรายงานมายังสังกัดอย่างละเอียด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา เพราะไม่ต้องการให้ผู้ปกครองและสังคมไม่ไว้ใจการดูแลบุตรหลานของโรงเรียน

18-9-2559 12-34-28 18-9-2559 12-34-14


ขณะที่ สพม.เขต 31 ตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยครูปาแก้ว หากผู้เสียหายมีหลักฐานยืนยันถูกปาใส่หน้าโดยตรง สามารถเพิ่มโทษได้ ดร.ชูเกียรติ วิเศษเสนา ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 31 นครราชสีมา เปิดเผยว่า กรณีคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปความผิดของครูพละก่อเหตุปาแก้ว ว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงนั้น ทุกอย่างว่าไปตามพยานหลักฐาน ทั้งจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนและครูที่อยู่ในเหตุการณ์ เห็นตรงกันว่า ครูปาแก้วกระทบหน้าต่างก่อนกระเด็นไปโดนหน้าเด็กนักเรียน ไม่ได้เป็นการปาใส่หน้าโดยตรง และเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจ

ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการชุดที่ 2 เพื่อสอบสวนทางวินัยครูคนดังกล่าว โดยมีนายสุพนธ์ จอกทอง ผอ.โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 เป็นประธาน ซึ่งจะลงพื้นที่ในวันจันทร์นี้ เพื่อสอบปากคำทั้งครูผู้ก่อเหตุ นักเรียน ม.5 ผู้เสียหาย โดยหากผู้เสียหายมีหลักฐานยืนยันได้ว่า ครูปาแก้วใส่หน้าโดยตรง สามารถนำมายืนยัน เพื่อนำ ไปพิจารณาเพิ่มโทษได้. -สำนักข่าวไทย

18-9-2559 12-34-54


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง