ภูมิภาค 23 ส.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครพนม กลับมาวิกฤติอีกครั้ง หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ และทางภาคเหนือของไทย
ล่าสุด วัดที่สถานีตรวจวัดชุมชนหนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อเวลา 09.00 น. มีระดับอยู่ที่ 12.07 เมตร เพิ่มขึ้นจากตอนเช้าวานนี้ถึง 15 ซม. ต่ำกว่าระดับตลิ่งเพียง 93 ซม. และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา โดยมวลน้ำบางส่วนไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน และให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงพร้อมจัดชุดเฝ้าระวัง รายงานระดับน้ำโขงตลอด 24 ชั่วโมง
ที่จังหวัดบึงกาฬ ระดับน้ำในแม่น้ำโขง เช้าวันนี้ที่จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ อำเภอเมืองบึงกาฬ วัดได้ 13.29 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติ 7 ซม. อย่างไรก็ตาม มีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมาก เอ่อล้น ไหลเข้าท่วมถนนภายในศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ ทาง ปภ. ต้องเร่งสูบน้ำออกตลอด 24 ชั่วโมง โดยภาพรวมถือว่าทรงตัว แต่ยังเป็นปริมาณที่สูงอยู่ และหนุนลำห้วยสาขา ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจนมีน้ำสะสมเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในเขตอำเภอเมืองบึงกาฬ ขณะเดียวกัน น้ำในแม่น้ำสงคราม 3 อำเภอ มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนบางส่วนที่อยู่ต่ำกว่าระดับถนน จึงถูกน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วม
ฝนที่ตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย มีมวลน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรที่ราบลุ่มใกล้ลำน้ำอิงและลำน้ำสาขา 9 หมู่บ้าน ในตำบลสถาน และ ตำบลศรีดอนชัย อำเภอเชียงของ ถูกน้ำเข้าท่วมกว่า 500 ไร่ อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมาทางอำเภอออกประกาศเตือนภัยให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ ซึ่งได้เตรียมความพร้อมรับมือกับน้ำป่าไหลหลาก โดยให้เก็บข้าวของที่มีค่าขึ้นไว้บนที่สูงและในวันนี้ได้มีการปิดเรียน โรงเรียนบ้านเขียะ และโรงเรียนบ้านหวายชั่วคราว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีปริมาณน้ำมาก ที่ตกหนักบนดอยแม่แอบ ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน ทำให้น้ำจากดอยแม่แอบไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรที่ราบลุ่มริมแม่น้ำแม่แอบประมาณ 20 หลังคาเรือน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือ .- สำนักข่าวไทย