กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งเกษตรกรขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ในการเข้าร่วมโครงการหรือขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรมีเป้าหมายการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรปี 2561 จำนวน 5.7 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันมีเกษตรกรมาขึ้นหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2561) 4,758,382 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 83.48 จากเป้าหมายการขึ้นทะเบียนเกษตรกรทั้งหมด ซึ่งยังมีเกษตรกรอีกประมาณ 1 ล้านครัวเรือน ที่ยังไม่แจ้งปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ทำให้กรมส่งเสริมการเกษตรต้องเร่งรัดการขึ้นทะเบียนเกษตรกรดังกล่าวนี้
สำหรับปีนี้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งรัดติดตามงานการขึ้นทะเบียนเกษตรกรไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกรเป้าหมายเหล่านี้ให้มาแจ้งปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรโดยเร็ว โดยแจ้งหลังปลูกพืช 15-60 วัน และให้ทันกับกรอบระยะเวลาการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ในกรณีที่เกษตรกรไม่มาปรับปรุงทะเบียนนานเกิน 3 ปี (นับถัดจากวันที่ 23 มิ.ย.2560) จะถูกตัดบัญชีทะเบียนเกษตรกรทิ้งทันที ทำให้หมดสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยความคืบหน้าตาม ครม.มีมติเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/2562 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพ โดย การจ่ายค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้เกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ไร่ละ 1,500 บาท ตามพื้นที่ปลูกข้าวจริงไม่เกินครัวเรือนละ 12 ไร่ หรือคิดเป็นเงินไม่เกินครัวเรือนละ 18,000 บาท ขณะนี้มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อรับสิทธิแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2561) 2,928,706 ครัวเรือน และผ่านการตรวจสอบพื้นที่เพื่อรับเงิน 354,209 ครัวเรือน โดยสิ้นสุดการรับขึ้นทะเบียนเพื่อรับสิทธินี้ วันที่ 31สิงหาคม 2561 และส่งมอบบัญชีทะเบียนเกษตรกรทั้งหมดที่ผ่านการตรวจสอบแล้วให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินการต่อไป
สำหรับวิธีการแจ้งขึ้น/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรทำได้หลายช่องทาง ได้แก่ 1.ให้เกษตรกรติดต่อสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ทำการเกษตร 2.แจ้งผ่านอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) 3.แจ้งผ่านสมุดทะเบียนเกษตรกรอิเล็กทรอนิกส์หรือแอพพลิเคชั่น DOAE Farmbook ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้จะทำให้เกษตรกรทราบข้อมูลของตนเองตลอดเวลาและมีความสะดวกในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้ไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานเกษตรอำเภอ ประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรนั้น คือ เป็นฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรในการพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ หรือมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ของรัฐ เป็นเอกสารยืนยันตัวตนความเป็นเกษตรกร และเกษตรกรได้รับสิทธิความช่วยเหลือในกรณีประสบภัยพิบัติ หรือตามมาตรการแก้ปัญหาและจ่ายเงินชดเชยเยียวยาจากภาครัฐ.-สำนักข่าวไทย