เมียนมา 20 ส.ค. – จีซีตั้งกรอบวงเงินเบื้องต้น 1 พันล้านบาท ร่วมลงทุนเอสเอ็มอีลงทุนธุรกิจพลาสติกในเพื่อนบ้าน ล่าสุดมีการร่วมลงทุน 6 รายแล้วในเวียดนามและเมียนมา
นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือจีซี เปิดเผยว่า จากที่บริษัทประกาศแผนงานเข้าไปถือหุ้นในกลุ่มลูกค้าที่จะเข้าไปผลิตผลิตภัณฑ์สินค้าพลาสติกในกลุ่มประเทศอินโดจีน นั้น เบื้องต้นได้ขออนุมัติวงเงินร่วมทุนทั้งหมดประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยถือหุ้นร้อยละ 10-25 ในบริษัทต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มลูกค้ามีความมั่นใจจะเข้าไปลงทุนมากกว่านี้ทางบริษัทก็พร้อมจะขยายวงเงินการร่วมทุนให้สูงขึ้น
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่จีซี กล่าวว่า ขณะนี้มีโครงการที่จีซีร่วมลงทุนกับลูกค้าประมาณ 6 โครงการ แบ่งเป็นเวียดนาม 3 โครงการ และเมียนมา 3 โครงการ เช่น การร่วมทุนใน S.P. Petpack Inter Group (Myanmar) Co., Ltd. , ร่วมทุนTPBI International Company Limited และ Myanmar Star Group Company Limited รองรับความต้องการเม็ดพลาสติกในกลุ่มซีแอลเอ็มอีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขยายประมาณ ร้อยละ 1.5 เท่าของจีดีพี โดยขณะนี้มีความต้องการเม็ดพลาสติกประมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี หรือครึ่งหนึ่งของไทยที่มีความต้องการ 3 ล้านตันต่อปี
นอกจากจีซีจะร่วมทุนกับกลุ่มลูกค้าใน CLMV แล้วยังมีการจัดตั้งจีซีเวนเจอร์ เพื่อเป็นบริษัทร่วมทุนกับเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม
“การขยายกิจการใน CLMV นอกจากจะมีการส่งออกโดยตรงอีกส่วนหนึ่งจีซีสนับสนุนลูกค้าให้เติบโตในเพื่อนบ้านไปด้วยกัน นับเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมของไทย สร้างชื่อเสียงเติบโตแข่งขันได้ การเข้าไปร่วมทุนก็ช่วยลดความเสี่ยง วันหนึ่งหากเค้าเข้มแข็งก็ให้มาซื้อหุ้นกลับคืนไปได้ จีซีก็จะถอนตัวออกมา นับเป็นการสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมพลาสติกให้เติบโตไปด้วยกัน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
สำหรับตลาดอาเซียนนั้น ทางจีซีตั้งเป้าจะมียอดขาย 100,000 ล้านบาท 4 ปีข้างหน้า โดยส่งออกเม็ดพลาสติกแบรนด์ InnoPlus ซึ่งปัจจุบันได้ตั้งสำนักงานตัวแทนขายในเวียดนามแล้ว และกำลังจะจัดตั้งขายในเมียนมาและอินโดนีเซีย. -สำนักข่าวไทย