นนทบุรี 17 ส.ค. – ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมคณะกรรมการความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน ระดับรองนายกรัฐมนตรี เน้นหารือยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 2 ประเทศ ตั้งเป้าผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มเป็น 2 เท่า ในปี 2564
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีน ครั้งที่ 6 หรือเจซี ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยจีนจะนำคณะนักธุรกิจและนักลงทุนชั้นนำกว่า 300 ราย เข้าร่วมงานสัมมนา Thailand – China Business Forum 2018 ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งจะมีการเยี่ยมชมพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในวันที่ 25 สิงหาคม เพื่อให้นักลงทุนจีนเห็นถึงความพร้อมของโครงการ EEC ของไทย และเป็นโอกาสในการหารือเรื่องการร่วมลงทุนในเขต EEC ด้วย
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีการหารือกำหนดเป้าหมายทางการค้าระหว่างกัน การส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ทั้งในส่วนของการขยายการค้าและการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม การท่องเที่ยว การเงิน ดิจิทัล และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งจะให้ความสำคัญเรื่องความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) ของจีน และนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” และการพัฒนา EEC ของไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยจีนเป็นทั้งตลาดส่งออกและนำเข้าอันดับ 1 ขณะที่ไทยเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 15 และเป็นตลาดนำเข้าลำดับที่ 10 ของจีน โดยปี 2560 การค้า 2 ฝ่ายมีมูลค่ารวม 73,670.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 11.9 และในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้การค้าระหว่างไทยกับจีนมีมูลค่า 39,395.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 12.97 ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า คือ ในปี 2564 มูลค่าการค้าทั้ง 2 ฝ่ายจะเพิ่มเป็น 2 เท่า อยู่ที่ 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ และส่วนประกอบ อุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย