เพชรบุรี 17 ส.ค.-เจ้าของ Family Farm ใน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นขาย กิโลกรัมละ 350-700 บาท อนาคตเตรียมต่อยอดทำสาหร่ายพวงองุ่นอบแห้ง เพื่อเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง
นางคมคาย มานิช หรือแม่แหม่ม เจ้าของ Family Farm ฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่นในตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เล่าว่า เคยมีอาชีพทำนาเกลือ บ่อเลี้ยงปลาและเลี้ยงกุ้ง แต่เจอปัญหาราคารับซื้อถูกลงเรื่อยๆ ตามภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ จึงมองหาอาชีพใหม่มาเพิ่มรายได้
ในปี 2557 เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งเพชรบุรี แนะนำและแจกพันธุ์ให้กับชาวบ้านทดลองปลูกสาหร่ายพวงองุ่น เพราะเหมาะกับสภาพพื้นที่ เนื่องจากตำบลแหลมผักเบี้ย พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ติดทะเล อีกทั้งสาหร่ายพวงองุ่นต้องเพาะเลี้ยงในน้ำเค็มเท่านั้น จึงใช้พื้นที่นาเกลือกว่า 20 ไร่ ปลูกสาหร่ายพวงองุ่นตั้งแต่นั้นมา
ส่วนขั้นตอนการปลูกจะคล้ายการทำนา ใช้วิธีการปักลงในดิน เริ่มจากคัดพันธุ์สาหร่ายที่มีสีออกแดง-เขียว ก่อนปักลงดินต้องสูบน้ำเข้าในบ่อระดับความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร หลังจากปักดำเสร็จจะสูบน้ำเพิ่มให้สูงถึงระดับเอว หรือประมาณ 50-60 เซนติเมตร ที่สำคัญต้องถ่ายน้ำออกวันละครั้ง เพราะสาหร่ายจะกินอาหารจำพวกแพลงก์ตอน ยิ่งเปลี่ยนน้ำบ่อยก็จะทำให้สาหร่ายเติบโตดี หากช่วงหน้าฝนควรตรวจค่าวัดความเค็มของน้ำให้อยู่ในระดับ 28-33 ppt ไม่เช่นนั้นอาจทำให้สาหร่ายตายได้ ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เพราะสาหร่ายพวงองุ่นเป็นพืชชอบอากาศร้อน ไม่ชอบอากาศหนาว
แม่แหม่มบอกอีกว่า ทุกๆ 2 ปี ควรพักบ่อเพื่อปรับหน้าดิน โรยด้วยปูนขาวทำการฆ่าเชื้อราที่อยู่ในดิน ผึ่งแดดประมาณ 15-30 วัน ส่วนราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 350-700 บาท ต้องขึ้นอยู่กับขนาดความยาว โดยจะแบ่งเป็นไซส์ S M L ในอนาคตจะต่อยอดทำสาหร่ายพวงองุ่นอบแห้ง เพื่อใช้ทำเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางด้วย นอกจากนี้ Family Farm ยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน สามารถติดต่อได้ที่นางคมคาย มานิช โทร.08-1441-1110 .-สำนักข่าวไทย