ขานรับแก้กฏกระทรวงคุมประพฤตินักเรียน

ศธ.16ส.ค.-รมว.ศึกษาฯแจงเสนอแก้ไขเพิ่มร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …เพื่อทันสมัยมากขึ้น ด้าน ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน  เห็นด้วยเพื่อการดูเเลเด็กได้ครอบคลุมขึ้น หลังพบกรณีความรุนเเรงและเพศรวมกว่า1เเสนกรณี อีกทั้งควรมีข้าราชการประจำดูเเลโดยตรงหลังพบครูภาระเยอะ แก้ปัญหาเด็กไม่ทั่วถึง


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ ศธ.เสนอแก้ไขเพิ่มร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …ว่า เนื่องจากกฎ กระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 เป็นกฎที่มีมานานจำเป็นต้องปรับแก้กฎกระทรวงจากเดิมเพื่อให้ทันสมัยมากขึ้น โดยกฎกระทรวงที่ออกมาจะเป็นเกณฑ์กลาง ว่าเวลาเด็กทำผิดในลักษณะไหน จะลงโทษอย่างไร อีกทั้งกฎกระทรวงเดิม ไม่กำหนดและขยายความเพิ่มเติมให้ทันสมัย เช่น ข้อกำหนดที่ว่า นักเรียนนักศึกษาต้องไม่ออกนอกสถานที่พักเวลากลางคืนเพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่ม อันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น และเเต่เดิมไม่มีข้อห้ามการรวมกลุ่มมั่วสุมของเด็กแว้น 


อย่างไรก็ตามต้องดูภาพรวมด้วย เช่น เด็กรวมกลุ่มกันเพื่อไปเรียนพิเศษแล้วรถติดกลับบ้านดึก หรือคนรวมกลุ่มไปงานปาร์ตี้ ก็ไม่ถือว่ามั่วสุม


ต่อข้อถามว่านักเรียนและนักศึกษาบางส่วนกังวลว่า การแก้ไขร่างกฎ กระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ฉบับใหม่นี้จะละเมิดสิทธิและจำกัดสิทธิไม่ให้นักศึกษาชุมนุมทางการเมืองหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ไม่ละเมิดสิทธิเพราะกระทรวงศึกษาฯ มีสิทธิออกกฎกระทรวง ในการดูแลความประพฤตินักเรียนอยู่เเล้ว และการแก้ไขร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ฉบับใหม่นี้จะดูเรื่องความประพฤติทั่วไปของนักเรียนนักศึกษาไม่มีนัยยะทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะเรื่องเหล่านี้มี คสช.ห้ามชุมนุมเกิน 5 คนกำกับดูแลอยู่เเล้ว

นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจ คุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง กำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ เพื่อเป็นการส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และคำนึงถึงความปลอดภัยแก่นักเรียนและนักศึกษา 

โดยสาระสำคัญที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 เกี่ยวกับลักษณะความประพฤติต้องห้ามของนักเรียนและนักศึกษา ได้แก่ 1.กำหนดเพิ่มเติมห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน 2.แก้ไขลักษณะความประพฤติที่ห้ามกระทำเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม จากเดิมที่ห้ามเฉพาะการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ เป็นการห้ามไม่จำกัดสถานที่ โดยตัดคำว่า “ในที่สาธารณะ” ออก และกำหนดเพิ่มเติมห้ามกระทำการลามกอนาจารด้วย และ3.แก้ไขลักษณะความประพฤติที่ห้ามกระทำเกี่ยวกับการออกนอกสถานที่พัก เพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น จากเดิมห้ามเฉพาะเวลากลางคืน เป็นการห้ามไม่จำกัดเวลา โดยตัดคำว่า “เวลากลางคืน” ออก 

โดยขั้นตอนหลังจากนี้ เตรียมส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาตามขั้นตอนเเละจะมีผลประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า การแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวจะทำให้การดำเนินการป้องกันปัญหาทั้งด้านยาเสพติด ความรุนแรง และปัญหาอื่นๆในเด็กได้ดีขึ้น เพราะเด็กอายุต่ำกว่า18 ปี วุฒิภาวะยังไม่สมบูรณ์จึงอาจตัดสินใจผิดพลาดหรือวิเคราะห์คาดเคลื่อนไปบ้าง เช่นเด็กบางคนคิดว่าเขามีสิทธิ์ในตัวของเขาเอง แต่ต้องให้ข้อมูลว่าแม้ว่าเด็กจะยินยอมพร้อมใจแต่ยังมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ เช่น พรากผู้เยาว์ ทั้งนี้ยืนยันว่ากฎที่มีไม่ได้เพื่อลิดรอนสิทธิเด็ก เพราะกฎระบุถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น

อย่างไรก็ตามกฎกระทรวงจะทำให้การดำเนินการดูเเลเด็กสะดวกเเละง่ายมากขึ้น สอดคล้องกับการทำงานของศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือเเละคุ้มครองนักเรียนที่กฎหมายเดิมไม่ครอบคลุมทุกสถานที่เเละทุกเวลา อาทิ การเเก้ปัญหาเด็กเเว้น ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบเเห่งชาติที่ 22/58 การรวม กลุ่มกันมั่วสุมเสพยาหรือปัญหาชู้สาว ขณะเดียวกันจะช่วยลดสถานการณ์ความรุนเเรงในเด็กได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2560 พบประมาณ 200 กรณีซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน 

ส่วนผลการดำเนินงานช่วยเหลือเด็กเเละนักเรียนในกรณีอื่นๆ พบว่ามีกรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ 68 ราย กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการศึกษา 11,332 รายเเละกรณีอื่นๆอาทิ ท้องไม่พร้อม จิตเวช สมาธิสั้นกว่า 91,719 ราย รวมทั้งหมดกว่า 103,253 ราย ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้น มีตั้งเเต่ระหว่างเด็กกับเด็ก ครูหรือบุคลากรทางการศึกษากับเด็ก บุคคลอื่นกับเด็ก เเละคนในครอบครัวกับเด็ก ขณะที่ปัญหาการทะเลาะวิวาทในเด็กกลุ่มใหญ่ลดลง โดยจากเหตุดังกล่าวได้มีคำสั่งให้อบรมนักจิตวิทยานักเรียนชั่วคราว โดยคัดเลือก นักวิชาการการศึกษา ศึกษานิเทศก์ เจ้าหน้าที่จากฉก.ชน.รวมกว่า 3,000 มาฝึกทักษะด้านจิตวิทยา ให้คำปรึกษาเเละดูเเลเด็กได้ดียิ่งขึ้น เพื่อฝึกให้เด็กได้จัดการความขัดเเย้งทั้งในใจเเละในสังคมด้วยสันติวิธี ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนของครู เสริมทักษะการใช้ชีวิต ทั้งเพิ่มทีมงานดูเเลครูที่มีปัญหากับเด็ก ปรับปรุงระบบสืบสวน สอบสวนให้เป็นระบบมากขึ้น ให้ความรู้ครูด้านเพศทางเลือกเพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ขณะที่เพิ่มเเผนการทำงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนเเละนักศึกษา(พสน.)ให้มีความชัดเจนเเละรัดกุม

เเต่อย่างไรก็ตามการทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากไม่ติดข้อจำกัดในส่วนของโครงสร้างบุคลากรที่ปัจจุบันสารวัตรนักเรียนในเเต่ละพื้นที่ไม่มีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ประจำ แต่อาศัยครูในโรงเรียนที่มีภาระงานเป็นการสอนอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าจะขับเคลื่อนกฎกระทรวงดังกล่าวที่แก้ไขแล้ว ให้มีประสิทธิภาพ ควรมีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ประจำในศึกษาธิการจังหวัดมาควบคุมเรื่องนี้อย่างชัดเจนประมาณ 3-5 คน เพื่อให้มีการดำเนินการออกตรวจเป็นประจำ และมีกำลังเพียงพอในการคุมพื้นที่.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]