fbpx

ขานรับแก้กฏกระทรวงคุมประพฤตินักเรียน

ศธ.16ส.ค.-รมว.ศึกษาฯแจงเสนอแก้ไขเพิ่มร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …เพื่อทันสมัยมากขึ้น ด้าน ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน  เห็นด้วยเพื่อการดูเเลเด็กได้ครอบคลุมขึ้น หลังพบกรณีความรุนเเรงและเพศรวมกว่า1เเสนกรณี อีกทั้งควรมีข้าราชการประจำดูเเลโดยตรงหลังพบครูภาระเยอะ แก้ปัญหาเด็กไม่ทั่วถึง


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ ศธ.เสนอแก้ไขเพิ่มร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …ว่า เนื่องจากกฎ กระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 เป็นกฎที่มีมานานจำเป็นต้องปรับแก้กฎกระทรวงจากเดิมเพื่อให้ทันสมัยมากขึ้น โดยกฎกระทรวงที่ออกมาจะเป็นเกณฑ์กลาง ว่าเวลาเด็กทำผิดในลักษณะไหน จะลงโทษอย่างไร อีกทั้งกฎกระทรวงเดิม ไม่กำหนดและขยายความเพิ่มเติมให้ทันสมัย เช่น ข้อกำหนดที่ว่า นักเรียนนักศึกษาต้องไม่ออกนอกสถานที่พักเวลากลางคืนเพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่ม อันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น และเเต่เดิมไม่มีข้อห้ามการรวมกลุ่มมั่วสุมของเด็กแว้น 


อย่างไรก็ตามต้องดูภาพรวมด้วย เช่น เด็กรวมกลุ่มกันเพื่อไปเรียนพิเศษแล้วรถติดกลับบ้านดึก หรือคนรวมกลุ่มไปงานปาร์ตี้ ก็ไม่ถือว่ามั่วสุม


ต่อข้อถามว่านักเรียนและนักศึกษาบางส่วนกังวลว่า การแก้ไขร่างกฎ กระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ฉบับใหม่นี้จะละเมิดสิทธิและจำกัดสิทธิไม่ให้นักศึกษาชุมนุมทางการเมืองหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ไม่ละเมิดสิทธิเพราะกระทรวงศึกษาฯ มีสิทธิออกกฎกระทรวง ในการดูแลความประพฤตินักเรียนอยู่เเล้ว และการแก้ไขร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ฉบับใหม่นี้จะดูเรื่องความประพฤติทั่วไปของนักเรียนนักศึกษาไม่มีนัยยะทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะเรื่องเหล่านี้มี คสช.ห้ามชุมนุมเกิน 5 คนกำกับดูแลอยู่เเล้ว

นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจ คุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง กำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ เพื่อเป็นการส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และคำนึงถึงความปลอดภัยแก่นักเรียนและนักศึกษา 

โดยสาระสำคัญที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 เกี่ยวกับลักษณะความประพฤติต้องห้ามของนักเรียนและนักศึกษา ได้แก่ 1.กำหนดเพิ่มเติมห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน 2.แก้ไขลักษณะความประพฤติที่ห้ามกระทำเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม จากเดิมที่ห้ามเฉพาะการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ เป็นการห้ามไม่จำกัดสถานที่ โดยตัดคำว่า “ในที่สาธารณะ” ออก และกำหนดเพิ่มเติมห้ามกระทำการลามกอนาจารด้วย และ3.แก้ไขลักษณะความประพฤติที่ห้ามกระทำเกี่ยวกับการออกนอกสถานที่พัก เพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น จากเดิมห้ามเฉพาะเวลากลางคืน เป็นการห้ามไม่จำกัดเวลา โดยตัดคำว่า “เวลากลางคืน” ออก 

โดยขั้นตอนหลังจากนี้ เตรียมส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาตามขั้นตอนเเละจะมีผลประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า การแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวจะทำให้การดำเนินการป้องกันปัญหาทั้งด้านยาเสพติด ความรุนแรง และปัญหาอื่นๆในเด็กได้ดีขึ้น เพราะเด็กอายุต่ำกว่า18 ปี วุฒิภาวะยังไม่สมบูรณ์จึงอาจตัดสินใจผิดพลาดหรือวิเคราะห์คาดเคลื่อนไปบ้าง เช่นเด็กบางคนคิดว่าเขามีสิทธิ์ในตัวของเขาเอง แต่ต้องให้ข้อมูลว่าแม้ว่าเด็กจะยินยอมพร้อมใจแต่ยังมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ เช่น พรากผู้เยาว์ ทั้งนี้ยืนยันว่ากฎที่มีไม่ได้เพื่อลิดรอนสิทธิเด็ก เพราะกฎระบุถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น

อย่างไรก็ตามกฎกระทรวงจะทำให้การดำเนินการดูเเลเด็กสะดวกเเละง่ายมากขึ้น สอดคล้องกับการทำงานของศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือเเละคุ้มครองนักเรียนที่กฎหมายเดิมไม่ครอบคลุมทุกสถานที่เเละทุกเวลา อาทิ การเเก้ปัญหาเด็กเเว้น ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบเเห่งชาติที่ 22/58 การรวม กลุ่มกันมั่วสุมเสพยาหรือปัญหาชู้สาว ขณะเดียวกันจะช่วยลดสถานการณ์ความรุนเเรงในเด็กได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2560 พบประมาณ 200 กรณีซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน 

ส่วนผลการดำเนินงานช่วยเหลือเด็กเเละนักเรียนในกรณีอื่นๆ พบว่ามีกรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ 68 ราย กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการศึกษา 11,332 รายเเละกรณีอื่นๆอาทิ ท้องไม่พร้อม จิตเวช สมาธิสั้นกว่า 91,719 ราย รวมทั้งหมดกว่า 103,253 ราย ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้น มีตั้งเเต่ระหว่างเด็กกับเด็ก ครูหรือบุคลากรทางการศึกษากับเด็ก บุคคลอื่นกับเด็ก เเละคนในครอบครัวกับเด็ก ขณะที่ปัญหาการทะเลาะวิวาทในเด็กกลุ่มใหญ่ลดลง โดยจากเหตุดังกล่าวได้มีคำสั่งให้อบรมนักจิตวิทยานักเรียนชั่วคราว โดยคัดเลือก นักวิชาการการศึกษา ศึกษานิเทศก์ เจ้าหน้าที่จากฉก.ชน.รวมกว่า 3,000 มาฝึกทักษะด้านจิตวิทยา ให้คำปรึกษาเเละดูเเลเด็กได้ดียิ่งขึ้น เพื่อฝึกให้เด็กได้จัดการความขัดเเย้งทั้งในใจเเละในสังคมด้วยสันติวิธี ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนของครู เสริมทักษะการใช้ชีวิต ทั้งเพิ่มทีมงานดูเเลครูที่มีปัญหากับเด็ก ปรับปรุงระบบสืบสวน สอบสวนให้เป็นระบบมากขึ้น ให้ความรู้ครูด้านเพศทางเลือกเพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ขณะที่เพิ่มเเผนการทำงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนเเละนักศึกษา(พสน.)ให้มีความชัดเจนเเละรัดกุม

เเต่อย่างไรก็ตามการทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากไม่ติดข้อจำกัดในส่วนของโครงสร้างบุคลากรที่ปัจจุบันสารวัตรนักเรียนในเเต่ละพื้นที่ไม่มีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ประจำ แต่อาศัยครูในโรงเรียนที่มีภาระงานเป็นการสอนอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าจะขับเคลื่อนกฎกระทรวงดังกล่าวที่แก้ไขแล้ว ให้มีประสิทธิภาพ ควรมีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ประจำในศึกษาธิการจังหวัดมาควบคุมเรื่องนี้อย่างชัดเจนประมาณ 3-5 คน เพื่อให้มีการดำเนินการออกตรวจเป็นประจำ และมีกำลังเพียงพอในการคุมพื้นที่.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น