ยกระดับสุ่มตรวจ-ออกใบรับรองพืชส่งออก

กรุงเทพฯ  16 ส.ค. – กรมวิชาการเกษตรส่งหนังสือเตือนผู้ส่งออก พร้อมยกระดับสุ่มตรวจ-ออกใบรับรอง หลังอินโดนีเซียเผาชมพู่และลองกองนำเข้าจากไทย เผยส่งออกชมพู่-ลองกองปีละ 400 ชิปเม้นท์ อินโดฯ ตรวจพบศัตรูพืชเพียงครั้งเดียว  


นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ชี้แจงกรณีอินโดนีเซียเผาทำลายชมพู่ 360 กิโลกรัมและลองกอง 180 กรัมที่นำเข้าจากไทย ว่า  กรมวิชาการเกษตรได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากหน่วยงานกักกันพืชประเทศอินโดนีเซียกรณีตรวจพบแมลงวัน 2 ชนิดในชมพู่และเพลี้ยแป้ง 1 ชนิดในลองกองที่นำเข้าจากประเทศไทย ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ทำหนังสือแจ้งผู้ประกอบการให้ทราบถึงปัญหาการตรวจพบศัตรูพืชดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา

สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาการการตรวจพบศัตรูพืชที่ประเทศปลายทางนั้น  กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ คือ ทำหนังสือแจ้งเตือนผู้ประกอบการ และหากสินค้าได้รับการแจ้งเตือนศัตรูพืชเกิน 3 ครั้ง กรมวิชาการเกษตรจะระงับการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชทันที  ซึ่งจะมีผลทำให้สินค้าไม่สามารถส่งออกได้ รวมทั้งสั่งการให้ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรยกระดับการสุ่มตรวจ   และออกใบรับรองสุขอนามัยพืช เพื่อสร้างความมั่นใจต่อประเทศผู้นำเข้า อย่างไรก็ตาม การสุ่มตรวจสินค้าส่งออกของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชกรมวิชาการเกษตรได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการกักกันพืชระหว่างประเทศ  ซึ่งต้องปฏิบัติเหมือนกันทุกประเทศ


อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า นอกจากมาตรการแก้ไขปัญหาการส่งออกตามตราการดังกล่าวแล้ว  กรมวิชาการเกษตรได้หารือร่วมกับ มกอช. เพื่อประสานงานกับหน่วยงานกักกันพืชของอินโดนีเซีย โดยแจ้งให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการเกษตร) ประจำกรุงจาการ์ต้า ประสานแจ้งผู้รับผิดชอบของอินโดนีเซียทราบถึงมาตรการการดำเนินการแก้ไขปัญหาในกรณีดังกล่าวของประเทศไทยด้วย    

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2559 – 2560 ไทยส่งออกชมพู่และลองกองไปอินโดนีเซีย  ปีละ 300-400 ชิปเม้นท์  คิดเป็นมูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท โดยการส่งออกในรอบ 2 ปีดังกล่าวถูกแจ้งเตือนการพบศัตรูพืชเพียง 1 ชิปเม้นท์เท่านั้น  ส่วนปี 2561 มีการส่งออกผลไม้ทั้ง 2 ชนิดไปอินโดฯ 156 ชิปเม้นท์ และถูกแจ้งเตือนการตรวจพบศัตรูพืชครั้งนี้เพียงครั้งเดียว  ซึ่งสินค้าที่ถูกเผาทำลายดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าเพียง 32,400 บาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง