รัฐบาลสั่งยกเครื่องรัฐวิสาหกิจ

รร.เบสเวสเทิร์นฯ 19 ก.ย. – รัฐบาลเดินเครื่องพัฒนารัฐวิสาหกิจ หวังใช้เป็นกลไกหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างโปร่งใส  สั่ง สคร.ยกเครื่องรัฐวิสาหกิจ จัดทำแผนยุทศาสตร์ให้สอดคล้องไทยแลนด์ 4.0


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานเสวนา  “1 ปี กับการยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ”  ว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ผ่านรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก  ดังนั้น กลไกสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับรัฐวิสาหกิจ คือ การสร้างความโปร่งใสและการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ  ดังนั้น  สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จึงได้จับมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบโครงการลงทุน เพราะขณะนี้เริ่มให้หลายหน่วยงานลงนามข้อตกลงคุณธรรม เช่น การพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2  การรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว การสร้างทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) หลายเส้นทาง  เพื่อเปิดให้บุคคลภายนอกร่วมตรวจสอบโครงการลงทุน  อีกทั้งรัฐบาลเริ่มให้ยื่นประมูลโครงการผ่าน E-Bidding นับว่าช่วยลดต้นทุนหลายหมื่นล้านบาท  ยอมรับที่ผ่านมามีต้นทุนแฝงเกิดขึ้นมากมายและต้นทุนดังกล่าวไม่รู้ว่าจ่ายให้ใครบ้าง

นายสมคิด กล่าวว่า  รัฐบาลสนับสนุนให้เกิดพลังร่วมกับภาคเอกชนผ่านองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น  ขณะที่พนักงานของรัฐวิสาหกิจต้องการให้องค์กรเติบโตได้อย่างโปร่งใสและอนนาคตต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมยกระดับความโปร่งใสให้มีความเข้มข้นอีกผ่านการจัดทำแผนรัฐวิสาหกิจปีหน้ากำชับกระทรวงการคลังกำหนดแผนยุทธศาสตร์ช่วง 5 ปี ทั้งแผนลงทุน  แผนบริหารจัดการ แผนความโปร่งใส  จึงมอบหมายให้ สคร.เข้าไปช่วยเหลือรัฐวิสาหกิจ เช่น การเดินตามแผน Smart City, Digital Economy ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยรัฐบาลจะเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดแต่ไม่แทรกแซง


เช่น การแก้ปัญหาการบินไทย  ยอมรับว่าช่วงแรกต้องลดต้นทุนระยะหนึ่ง  แต่แผนระยะยาว 5 ปี ต้องมีแผนเชิงรุกสู้กับสายการบินอื่น ผ่านการลงทุนเพิ่มด้านต่าง ๆ ให้พร้อมด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพ  ผ่านการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ  มีการสรรหาซีอีโออย่างโปร่งใส  มีระบบสรรหาที่ไม่ใช่สั่งมาจากพรรคการเมือง แต่ต้องให้เหมาะสมพอดีเพื่อเกิดความยืดหยุ่น แต่ไม่ใช่วางกฎเกณฑ์สรรหาจนต้องหาเทวดาเข้ามาบริหารงาน เช่น รัฐวิสาหกิจในมาเลเซียมีคนไทยเข้าไปบริหารงานได้ เพราะขณะนี้กระแสโลกเปลี่ยนแปลงมากแล้ว  นอกจากนี้ ยังต้องการผลักดันให้ สคร.ปฏิรูปองค์กรและร่วมกับรัฐวิสาหกิจจัดทำยุทธศาสต์องค์กร เพื่อรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อสร้าง Big Data ให้เป็นข้อมูลหลักด้านดิจิตอลของประเทศนำมาวิเคราะห์เชิงนโนบายนำไปจัดทำแผนด้านต่าง ๆ เช่น การสร้าง Smart City การส่งเสริมให้ชนบทค้าขายผ่านอินเทอร์เน็ตในชุมชน

นายสมคิด กล่าวว่า  ปัจจุบันรายได้ของรัฐวิสาหกิจทั้งระบบประมาณ  5 ล้านล้านบาทต่อปี จากฐานทรัพย์สินทั้งหมด 13 ล้านล้านบาท สูงกว่ารายได้รัฐบาลมีอยู่ 2.3 ล้านล้านบาท และนับว่ารายได้สูงกว่างบประมาณรายจ่ายรัฐบาลมีจำนวน 2.7 ล้านล้านบาท ขณะที่รัฐวิสาหกิจมีงบรายจ่ายลงทุน 4.7 ล้านล้านบาท รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้เข้าคลังนับแสนล้านบาท รัฐบาลจึงเร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจลงทุนให้เป็นไปตามแผนการลงทุน เพราะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากโครงการลงทุนสำคัญ ทั้งรถไฟฟ้า สาธารณูปโภค ส่วนใหญ่รัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของโครงการลงทุน  ขณะที่รัฐวิสาหกิจของสิงคโปร์ จีน มีความเข้มแข็งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและออกไปแข่งขันในเวทีโลก

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการ สคร. กล่ววว่า เตรียมร่วมกับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะเวลา 5 ปี เพื่อนำนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มาแปลงเป็นแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ เช่น การลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ต่อปี การกำหนดคุณสมบัติของกรรมการรัฐวิสาหกิจให้ตรงกับองค์กร ผ่านการใช้มติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โดยไม่ต้องรอให้ร่างกฎหมายบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อวางข้อกำหนดให้มีความชัดเจน ทั้งนี้เพื่อต้องการให้รัฐวิสาหกิจปรับองค์กรรองรับนโยบายของรัฐบาล


นอกจากนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. มอบใบประกาศเกียรติคุณ  “บุคคลต้นแบบ” ด้านความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรประจำปี 2559 เพื่อรณรงค์ส่งเสริมบังคับใช้ประมวลจริยธรรม และยกย่องรัฐวิสาหกิจที่มีความซื่อสัตย์ ยึดหลักคุณธรรม  18 ราย  และการมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจที่มีการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศในการจัดทำแผนงานส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใส ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ คือ  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  (กฟภ.) รางวัลชมเชย ได้แก่  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  (กฟผ.)  การประปานครหลวง  (กปน.)  บมจ.ทีโอที  โรงงานยาสูบ   ธนาคารออมสิน  องค์การอุสาหกรรมป่าไม้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบพร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ

สระแก้ว 12 มิ.ย. – ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบด้วยกระสุนจริง พร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที กองกำลังบูรพา พร้อมด้วยกองกำลังเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 (ฉก.ร.12) กองพันที่ 2 ได้ทำการจัดการฝึกยิงอาวุธประจำกายของกำลังพล ด้วยกระสุนจริง บริเวณพื้นที่เขาอีด่าง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อยกระดับความชำนาญในการใช้อาวุธประจำกายของแต่ละบุคคลตามตำแหน่งหน้าที่ พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมในการปกป้องดินแดนอธิปไตยของชาติ และการรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน โดยเน้นการเพิ่มทักษะและความแม่นยำในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ประจำอยู่กับแต่ละกำลังพล หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ในทันทีทุกเวลาเพื่อความสงบสุขของประชาชนคนไทย.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เรียกถกด่วน หลังพบการรุกป่าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

บ้านพิษณุโลก 12 มิ.ย.- นายกฯ เรียกปลัด ทส.-เสนาธิการทหารบก ประชุมด่วน หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาค 2 รายงานพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน-อุทยานฯ เป็นปัญหาตรวจสอบพื้นที่ตามแนวชายแดน เร่งเพิ่มเส้นทางตรวจการณ์อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ภายหลังเรียกประชุมด่วนเมื่อช่วงเช้า กับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก และหัวหน้าเขตอุทยาน 5 เขตแนวชายแดน ว่า เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ดิฉันและคณะได้ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ท่านแม่ทัพภาคที่2 ได้รายงานอีกเรื่องที่สำคัญค่ะ คือการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและพื้นที่อุทยาน ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเรื่องการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่ตามแนวชายแดน และไม่มีเส้นทางทำให้การปฏิบัติงานเป็นได้ด้วยความยากลำบากและล่าช้า วันนี้ดิฉันจึงขอประชุมด่วน โดยมีท่านปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ หัวหน้าเขตอุทยานทั้ง 5 เขตแนวชายแดน และเสนาธิการทหารบกร่วมพูดคุยกัน แผนงานที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การเพิ่มเส้นทางในการตรวจการณ์พื้นที่อุทยาน การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติบริเวณชายแดนให้อยู่ในสภาพดี เพียงพอสำหรับการอำนวยความสะดวก และลดระยะเวลาเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ รวมถึงแผนเร่งพัฒนาระบบการสื่อสารและไฟฟ้าให้มีความเสถียร เพื่อให้การประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น การปฏิบัติงานตามแนวชายแดนมีหลายสิ่งที่ต้องเร่งจัดการ เพื่อเตรียมความพร้อม […]