กทม.ประชุมเพิ่มมาตรการดูแลสวนสาธารณะ

กทม.14 ส.ค.-วันนี้ สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม ของ กทม.เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสาธารณะ กำชับวิธีทำงาน  เพิ่มมาตรการเข้ม หลังเกิดกรณีสังคมออนไลน์โพสต์ภาพการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในสวนลุมพินี


นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีสังคมออนไลน์ได้มีการโพสต์เกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในสวนลุมพินี ว่า วันนี้ (14 ส.ค.) สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กำหนดประชุมเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องในการดูแลสวนสาธารณะ ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีสวนสาธารณะและสวนหย่อม รวมทั้งสิ้น 7,814 แห่ง โดยสวนสาธารณะและสวนหย่อมขนาดเล็กอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสำนักงานเขตในพื้นที่ ส่วนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 37 แห่ง อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสำนักสิ่งแวดล้อม 


นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่า สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในแต่ละวันจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาทิ สวนลุมพินี จะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการประมาณ 10,000-20,000 คนต่อวัน เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ทางสำนักสิ่งแวดล้อมจึงเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการดูแลสวนสาธารณะเพื่อกำชับวิธีการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสวนลุมพินี และสวนสาธารณะอีก 36 แห่ง กำหนดแนวทางการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน 


นอกจากมีวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติโดยปกติแล้ว ยังต้องมีการตรวจสอบพื้นที่สวนทุกแห่งว่ามีจุดอ่อนหรือจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง รวมทั้งแก้ไขข้อบกพร่องในการทำงานของเจ้าหน้าที่หากพบว่ามีจุดอ่อน อย่างในกรณีที่สวนสาธารณะได้มีการจ้างเอกชนหรือหน่วยงานภายนอกเข้ามาดูแลเรื่องความปลอดภัยแก่ประชาชนผู้มาใช้บริการ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จะเดินดูหรือตรวจตราภายในสวนสาธารณะทุกครึ่งถึง 1 ชั่วโมง แต่รอบการตรวจนั้นยังมีช่องว่างอยู่ ก็ต้องเพิ่มรอบการตรวจให้ถี่มากยิ่งขึ้น พร้อมให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการดูแลสวนสาธารณะทุกแห่งลงบันทึกรายงานการตรวจในทุก ๆ รอบ และรายงานหัวหน้าสวนสาธารณะทราบ 

อย่างไรก็ตามการเลื่อนเวลาเปิด-ปิดสวนสาธารณะ โดยร่นเวลาให้ปิดเร็วขึ้นนั้น อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบและความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ เพราะประชาชนบางส่วนจะใช้เวลาหลังเลิกงานเข้ามาออกกำลังกาย ทั้งนี้สำนักงานสวนสาธารณะจะกำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย หากมีจุดอ่อนหรือจุดบกพร่องตรงไหน ก็ต้องหาทางปรับปรุงตรงจุดนั้นต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วน “เหนือ กลาง ตะวันออก” มีฝนตกบางแห่ง อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”