เพชรบุรี 13 ส.ค.-สถานการณ์ล่าสุดของน้ำที่ไหลออกจากเขื่อนแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งปริมาณน้ำที่ไหลออกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ระดับน้ำในเขื่อนแก่งกระจานลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับ โดยกรมชลประทานคาดว่าอีกประมาณ 3-4 วันนี้ ระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าสปิลเวย์ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีลดลงตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ยังคงมีการระบายออกจากเขื่อนอยู่สองทาง ทั้งทางลำน้ำเดิม และกาลักน้ำ เพื่อพร่องน้ำในเขื่อนให้เหลือน้อยกว่า 80% ของความจุเขื่อน เพื่อรองรับน้ำใหม่ที่จะไหลเข้าเขื่อนในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
ส่วนที่เขื่อนเพชรล่าสุดมีการปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อน จากเมื่อวานนี้ (12 ส.ค) ระบายอยู่ที่ 101 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือเพียง 94.53 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีลดลง ด้านนายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรี ยืนยันขณะนี้จังหวัดเพชรบุรีโดยเฉพาะในตัวเมือง พ้นวิกฤติที่จะถูกน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ว่าแม่น้ำเพชรบุรีจะเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในวันที่ 12 สิงหาคม เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม อีกทั้งมีคลองระบายน้ำสาย 3 คลองกระจับ และคลอง D9 ช่วยระบายน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทย ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ในส่วนของสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ต.บางครก อ.บ้านแหลม ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำและได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนแก่งกระจานและเขื่อนเพชร ที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีสูงขึ้น ประกอบกับช่วงนี้มีภาวะน้ำทะเลหนุน ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ชายน้ำ ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 9 มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมสูง 30-60 เซนติเมตร และหากน้ำทะเลหนุนเต็มที่ในช่วงกลางคืนบางจุดไม่สามารถเดินได้ ชาวบ้านต้องพายเรือออกจากบ้านเพื่อไปใช้ห้องน้ำที่วัด
อย่างไรก็ตาม ภาวะน้ำทะเลหนุนมีแค่เพียงบางช่วงเท่านั้น อีก 1-2 วัน น้ำทะเลจะนิ่ง ไม่หนุน ซึ่งจะทำให้อัตราการไหลของน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีดีขึ้น พื้นที่ที่ถูกน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมก็จะกลับสู่สภาวะปกติ. – สำนักข่าวไทย