บุรีรัมย์ 12 ส.ค. – ตำรวจชุดสืบเมืองบุรีรัมย์ รวบแก๊งค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำคลองเปรม ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ของกลางยาบ้ากว่า 10,000 เม็ด พร้อมรถที่ได้ค้ายา ใช้วิธีติดต่อส่งของกันทางไปรษณีย์และบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ
วานนี้ (11 ส.ค.) พล.ต.ต.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ แถลงผล การระดมกวาดล้างจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยมีผู้ต้องหา 3 คน ของกลางยาบ้า 10,459 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 122.6 กรัม รถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 6 นัด
หลังสืบสวนทราบว่า นายกล้า (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาว อ.สีดา จ.นครราชสีมา ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านโกรกขี้หนู ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด จึงไปตรวจสอบที่บ้านพักและสามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้พร้อมของกลางยาบ้า 178 เม็ด ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง โดยนายกล้า รับสารภาพว่า ได้ติดต่อซื้อยาเสพติดดังกล่าวมาจาก นายอภิชัย หรือหยาง จารัส อายุ 36 ปี ชาว ต.หลักเขต ตำรวจจึงวางแผนล่อซื้อยา และจับกุมนายอภิชัย ได้พร้อมของกลางยาบ้า 2,421 เม็ด ไอซ์ 112.9 กรัม อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนที่บรรจุอยู่ในรังเพลิง 6 นัด
นายอภิชัย ให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดเป็นของตนเอง และยังมียาเสพติดเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง โดยตนได้ฝากไว้กับนายจักรกริศน์ หรือต้น อาญาเมือง อายุ 32 ปี อยู่ที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ตำรวจจึงวางแผนให้นายอภิชัย ติดต่อให้นายนายจักรกริศน์ นำยาเสพติดมาส่งให้ โดยได้นัดหมายให้มาส่งมอบให้ที่บริเวณถนนข้างศาลหลักเมือง ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม นายนายจักรกริศน์ ได้พร้อมของกลางยาบ้า 7,855 เม็ด ส่วนนายพรชัย คนขับรถจักรยานยนต์ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ ซึ่งตำรวจจะขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป
พฤติกรรมของแก๊งค้ายากลุ่มนี้ เคยต้องโทษในคดียาเสพติดอยู่ที่เรือนจำคลองเปรม เมื่อพ้นโทษออกมาแล้วก็มีการติดต่อกับเครือข่ายค้ายาในเรือนจำ เพื่อนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยใช้วิธีส่งของกันทางไปรษณีย์และบริษัทขนส่งเอกชน ครั้งละประมาณ 10-15 มัด หรือ (20,000-30,000 เม็ด) ทั้งนี้ ยังได้ใส่ลูกเหม็นมาในกล่องพัสดุที่บรรจุยาบ้าด้วยเพื่อดับกลิ่น ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันกลุ่มนักค้ายาเสพติด ได้เปลี่ยนวิธีติดต่อซื้อขายและส่งของกันในหลายรูปแบบเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ อย่างเช่นครั้งนี้ที่มีการส่งของกันทางพัสดุภัณฑ์บริษัทขนส่งเอกชน จึงอยากขอความร่วมมือทางบริษัทขนส่ง ให้เพิ่มมาตรการตรวจสอบชื่อผู้รับ-ส่งพัสดุ รวมถึงพัสดุที่จัดส่งด้วย เพื่อป้องกันการใช้เป็นสื่อกลางในการขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย. -สำนักข่าวไทย